เปิดลายแทงห้างใหม่ 2567 ยักษ์ค้าปลีกทุ่มแสนล้าน สยายปีกยึดทำเลทอง เมืองศก.

เปิดลายแทงห้างใหม่ 2567 ยักษ์ค้าปลีกทุ่มแสนล้าน พลิกโฉม สยายปีกยึดหัวหาดทำเลทอง เมืองศก.

สมรภูมิธุรกิจค้าปลีกไทยใต้ปีกทุนยักษ์ใหญ่ ยังคงร้อนฉ่าข้ามปี จากการอัดเม็ดเงินก้อนโตคาดว่ามีมูลค่ากว่าแสนล้านบาท ลงทุนพลิกโฉมครั้งใหญ่ ปักหมุดทำเลใหม่ สยายปีกสาขาทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะเมืองรองที่เริ่มคึกคัก

หลัง ”กลุ่มเซ็นทรัล” ส่งท้ายปี 2566 ด้วยการเปิด ”เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” บนถนนราชพฤกษ์ มูลค่า 3,600 ล้านบาท มีพื้นที่ขาย 32,000 ตารางเมตร เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันเดินเครื่องโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งประกาศทุ่มเงินกว่า 14,000 ล้านบาท เข้าไปลงทุนในเมืองรองสองแห่งที่”นครสวรรค์และนครปฐม”เปิดประตูการค้าสู่ภาคกลางและตะวันตก

Advertisement

โดย ”นครสวรรค์” มีมูลค่าโครงการ 5,800 ล้านบาท ที่ดิน 42 ไร่ ประกอบด้วยศูนย์การค้า โรงแรม 200 ห้อง คอนโดมิเนียม และ Urban Park ขนาดใหญ่ 2 ไร่ โรงพยาบาลสินแพทย์ประเดิมวันที่ 31 มกราคม 2567 เปิด “เซ็นทรัลนครสวรรค์ “ งบลงทุน 4,500 ล้านบาท มีพื้นที่ขาย 29,000 ตารางเมตร

จากนั้นวันที่ 31 มีนาคม 2567 ถึงคิว ”เซ็นทรัล นครปฐม” หลังทุ่มงบลงทุน 3,800 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่ขาย 25,000 ตารางเมตร ซึ่งที่นี่มูลค่าโครงการ 8,200 ล้านบาท ที่ดินเกือบ 100 ไร่ ประกอบด้วยศูนย์การค้า โรงแรม 200 ห้อง คอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรรและ Urban Park ขนาดใหญ่ 4 ไร่

Advertisement

ยังมี ”เซ็นทรัลกระบี่” ด้วยงบลงทุน 4,500 ล้านบาท เนื้อที่ 40 ไร่ มีพื้นที่ขาย 22,000 ตารางเมตร พร้อมเปิดในไตรมาส 4 ของปี 2567

ตามมาด้วย ”โรบินสันไลฟ์สไตล์ นครพนม” ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 และ”โรบินสันไลฟ์สไตล์ หนองคาย” งบลงทุน 1,000 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวในปี 2567

อีกทั้งจัดคิวรีโนเวตศูนย์การค้าเดิมอีกหลายแห่งให้ทันสมัย รับรถไฟฟ้า พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ,เซ็นทรัล บางนา,เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ,เซ็นทรัลเชียงใหม่,เซ็นทรัลขอนแก่น, เซ็นทรัลพัทยา

แต่ที่น่าจะเป็นการพลิกโฉมครั้งใหญ่ “เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์” ซึ่งกำลังนับถอยหลังทุบทิ้งวันที่ 31 มกราคมนี้ เพื่อสร้างใหม่ ภายใต้โมเดลมิกซ์ยูส ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี

เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของ ปี2567 โดยทั้งหมดเป็นการลงทุนภายใต้แผน ธุรกิจ 5 ปี ด้วยงบลงทุน 135,000 ล้านบาท เพื่อขยายโครงการครอบคลุมกว่า 30 จังหวัดทั่วประเทศ

 

ด้านความเคลื่อนไหวของ ”กลุ่มเดอะมอลล์กรุ๊ป” ปี 2566 ที่ผ่านมาถือเป็นปีทอง เพราะอวดโฉมห้างใหม่ถึง 3 แห่งในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ดีเดย์ 1 ธันวาคม เปิด”ดิ เอ็มสเฟียร์” หลังทุ่มสรรพกำลัง เงินลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท ต่อจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายอาณาจักร “ดิ เอ็ม ดิสทริค” บนถนนสุขุมวิท บิ๊กโปรเจ็กต์ มูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 แห่ง ได้แก่ ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และดิ เอ็มสเฟียร์ สู่ย่านช้อปปิ้งระดับเวิลด์คลาสในรัศมีติดรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

วันถัดมา 8 ธันวาคม อวดโฉมใหม่ “เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์” สาขาบางกะปิ ส่วนสาขาบางแคเตรียมเผยโฉมในเร็วๆนี้หลังทุ่มเม็ดเงิน 30,000 ล้านบาท ยกเครื่องใหม่ในรอบ 28 ปี ปั้นเป็นแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก

ปัจจุบัน ”เดอะมอลล์” ได้ปรับโฉมศูนย์การค้าเดอะมอลล์เป็นเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์แล้ว 4 แห่ง ได้แก่ งามวงศ์วาน ท่าพระ บางกะปิ และบางแค ยังเหลือเดอะมอลล์โคราช ส่วนเดอะมอลล์รามคำแหง อยู่ระหว่างทำแบบพัฒนาโครงการ รับรถไฟฟ้าสายสีส้ม คาดว่าจะสรุปแผนลงทุนโครงการได้ภายในปี 2567 รวมถึงเร่งเครื่องก่อสร้างโครงการ”แบง ค็อก มอลล์” มูลค่า 3-4 หมื่นล้านบาท บนถนนบางนาตราด มีเนื้อที่เป็น 100 ไร่ คาดแล้วเสร็จในปี 2569-2570

จากศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ มาดูไฮเปอร์มาร์เก็ต ”บิ๊กซี-โลตัส” ธุรกิจภายใต้อาณาจักรของเจ้าสัวเบียร์ช้างและเจ้าสัวซีพี ที่อัดเม็ดเงินก้อนโตพลิกโฉมสู่ไลฟ์สไตล์มอลล์ เพิ่มพื้นที่แฮงค์เอาต์ พักผ่อน รับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ไม่เหมือนเดิม

ในแผนของ ”บิ๊กซี” ที่ดำเนินงานโดยบริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BRC ในปี 2566 ระบุใช้งบ 10,000 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งลาว กัมพูชา เวียดนาม จีน ซึ่งในนี้เท 2,000 ล้านบาท รีโนเวต 10-15 สาขาเดิมให้ทันสมัย เป็น”บิ๊กซีเพลส” (Big C Place)

ประเดิม ”สาขาลำลูกกา” เป็นแห่งแรก ล่าสุดกำลังเร่งพลิกโฉม ”บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า รัชดาภิเษก” วงเงิน 500 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งที่รัชดาฯนอกจากจัดเลย์เอาท์พื้นที่ใหม่ ทั้งโซนสินค้า ร้านอาหาร ยังเพิ่มบิ๊กซี มินิ และมุมของฝากสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ปัจจุบัน ”บิ๊กซี” มีร้านค้ารวม 3,184 ร้านค้า มีพื้นเช่ากว่า 1 ล้านตารางเมตร แยกเป็นร้านขนาดใหญ่ จำนวน 1,718 ร้านค้า ร้านค้ารูปแบบอื่นๆ จำนวน 1,466 ร้านค้า และมีเครือข่ายร้านค้าปลีกหลากหลายรูปแบบ เช่น บิ๊กซี ซูเปอร์ เซ็นเตอร์, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า, บิ๊กซี เพลส, บิ๊กซี มาร์เก็ต, บิ๊กซี ฟู๊ดเพลส, บิ๊กซี ดีโป้, บิ๊กซี มินิ, บิ๊กซี ฟู๊ด เซอร์วิสรวมถึงธุรกิจตลาดโอเพ่นแอร์ อย่างตลาดทิพย์นิมิตร, ตลาดครอบครัว, ตลาดเดินเล่น และร้านค้าอื่น ๆ เช่น ร้านกาแฟวาวี, ร้านหนังสือเอเซียบุ๊คส์ ,ร้านขายยาเพรียว และร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม“โดนใจ”

ฝั่ง ”โลตัส” รีโมเดลใหม่จากไฮเปอร์มาร์เก็ตธรรมดา สู่”สมาร์ทคอมมูนิตี้เซ็นเตอร์”เพิ่มพื้นที่ใหญ่ขึ้นเท่ากับศูนย์การค้าขนาดกลาง ด้วยพื้นที่ 30,000-40,000 ตารางเมตร เมื่อปี 2566 ใช้เงินลงทุน 12,000 ล้านบาทครบถ้วนทั้งเปิดสาขาใหม่ ปรับปรุงและขยายพื้นที่สาขาเดิม รวม 31 แห่งทั่วประเทศ

ในจำนวนนี้มี 7 สาขาสร้างใหม่ในจังหวัดท่องเที่ยวหรือหัวเมืองใหญ่ เช่น ยะลา อีก 24 สาขา ขยายพื้นที่เดิมให้ใหญ่ขึ้นเป็น 30,000 ตารางเมตร เช่น เพิ่ม Lotus’s Eatery ศูนย์รวมอาหารทุกประเภท ประเดิม 4 สาขาที่ปากช่อง อุดรธานี พัฒนาการ และเอกมัย-รามอินทรา ส่วนที่เหลือเป็นการรีโนเวต เช่น บางกะปิ ลาดพร้าว ตามแผนจะทยอยแล้วเสร็จในปี 2567-2568

ไม่เพียงเท่านี้ ”เจ้าสัวซีพี” ยังผุดโมเดลใหม่ Hybrid Wholesale เป็นการผนึกจุดแข็งห้างในเครือ ระหว่าง ”แม็คโคร” ผู้นำค้าส่งดำเนินการโดยบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXTและ ”โลตัส มอลล์” ที่เป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ส่งท้ายปี2566 ประเดิมเปิด 2 สาขา โดยสาขาแรกที่ ”สมุทรปราการ” ต่อด้วย ”สาขาพรหมนิมิต จ.นครสวรรค์” เป็นสาขาที่สอง เดินหน้าคู่ขนานไปกับพลิกโฉม”แม็คโคร”สาขาที่คู่แข่งเข้าไปตีตลาด เช่น สาขาศรีนครินทร์ สาขาเชียงใหม่ ซูเปอร์ไฮเวย์

ด้าน ”ฟู้ดแลนด์” เจ้าตลาดค้าปลีก 24 ชั่วโมง หลังเงียบไปหลายปี เริ่มกลับมาเดินหน้าลงทุนเปิดสาขาใหม่ปีละ 2-3 สาขา เน้นพื้นที่กรุงเทพฯเป็นหลัก ล่าสุดปี 2566 รุกปักหมุดทำเลกลางเมือง ในโครงการ”พาร์คสีลม” เป็นสาขาที่24 ด้วยเงินลงทุน 60 ล้านบาท และสาขาที่25 ย่านสายไหมในคอมมูนิตี้มอลล์โครงการ”ไอคอน 56” เงินลงทุน 50 ล้านบาท ส่วนปี 2567 เตรียมเงินลงทุน 140 ล้านบาท เพื่อเปิด 2 สาขาใหม่และรีโนเวตสาขาลาดพร้าวและหัวหมาก

ช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา สมรภูมิการแข่งขันเริ่มคุกรุ่นมากขึ้น เมื่อมีค้าส่งน้องใหม่ “GO Wholesale” (โก โฮลเซลล์) ของกลุ่มบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือ CRC หรือบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)ที่ส่งโมเดลใหม่ มาชิมลางตลาด 4 สาขา ได้แก่ ศรีนครินทร์ เชียงใหม่ นิคมอมตะนคร และพัทยาใต้ โดยแต่ละสาขามีขนาดพื้นที่ 7,000-8,000 ตารางเมตร และสินค้ากว่า 20,000 รายการ

สำหรับปี 2567 เตรียมเปิดอีกหลายสาขาทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด อาทิ เดือนพฤษภาคมเปิดสาขารังสิตโซนเหนือกรุงเทพ เนื้อที่กว่า 20 ไร่ ใกล้กับโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต รวมถึงสาขาพระราม 2 ซึ่งปรับพื้นที่ท็อปส์คลับให้เป็น ”โก โฮลเซลล์” โดยกลุ่มเซ็นทรัลวาดแผน 5 ปี จะใช้เงินลงทุน 20,000 ล้านบาท ผุด 50 สาขา และมีรายได้ 60,000-70,000 ล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image