ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.66 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.66 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย

วันที่ 8 มกราคม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.66 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.72 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.35-35.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.55-34.75 บาทต่อดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนสูง (แกว่งตัวในกรอบ 34.44-34.95 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะผันผวนอ่อนค่าหนัก ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และการย่อตัวลงแรงของราคาทองคำ จากรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ของสหรัฐฯ ล่าสุด ที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างปรับลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยเฟดที่เร็วและลึก

อย่างไรก็ดี เมื่อผู้เล่นในตลาดได้พิจารณาข้อมูลการจ้างงานเชิงลึก ตลาดแรงงานสหรัฐฯ กลับไม่ได้แข็งแกร่งตามข้อมูลที่รายงาน และข้อมูลการจ้างงานโดยรวมก็ออกมาผสมผสาน (มีทั้งส่วนที่ดีและแย่) ขณะเดียวกัน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (ISM Services PMI) ล่าสุด ที่ออกมาแย่กว่าคาด โดยเฉพาะในส่วนการจ้างงาน

Advertisement

ทำให้ ผู้เล่นในตลาดเริ่มกลับมามองว่าภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก และผู้เล่นในตลาดต่างยังคงมุมมองเดิมว่าเฟดมีโอกาสราว 64% ที่จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคม ซึ่งมุมมองดังกล่าวส่งผลให้ เงินดอลลาร์ย่อตัวลงบ้าง ส่วนราคาทองคำก็สามารถรีบาวด์ขึ้น หนุนให้เงินบาททยอยกลับมาแข็งค่าขึ้นได้

“สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลง ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ที่หนุนให้ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ในสัปดาห์นี้ ควรเตรียมรับมือความผันผวนจาก รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด หลังรับรู้รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ล่าสุด”นายพูนกล่าว

นายพูนกล่าวว่า สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมการอ่อนค่ายังคงมีอยู่ ทำให้เงินบาทเสี่ยงที่จะผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน 34.80 บาทต่อดอลลาร์ (โซนถัดไป คือ 35.00) หากผู้เล่นในตลาดต่างปรับลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยเฟด นอกจากนี้ ควรจับตาทิศทางราคาทองคำซึ่งอาจปรับตัวลดลงต่อได้ ขณะเดียวกัน บรรยากาศในตลาดการเงินจีนและทิศทางเงินหยวนจีน (CNY) ก็อาจสร้างความผันผวนต่อสกุลเงินฝั่งเอเชียได้ หากผู้เล่นในตลาดต่างกังวลปัญหาหนี้ในจีนมากขึ้น จากข่าวการยื่นล้มละลายของธนาคารเงารายใหญ่ Zhongzhi

Advertisement

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น ยังมีโอกาสแข็งค่าขึ้น หากอัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ไม่ได้ชะลอลงตามคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดอาจต้องปรับลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟด จนอาจมองว่า เฟดมีโอกาสคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม

“ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward”นายพูนกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image