อสังหา จี้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ย ถก ‘เศรษฐา’ ออกมาตรการกระตุ้นคนซื้อบ้าน ลดภาษีที่ดิน

แฟ้มภาพ

อสังหา จี้แบงก์ชาติลด ดบ. ถก ‘เศรษฐา’ ออกมาตรการกระตุ้นคนซื้อบ้าน ลดภาษีที่ดิน เลิก LTV

เมื่อวันที่ 10 มกราคม นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันดอกเบี้ยของประเทศไทยอาจค่อนข้างสูง ถ้าเทียบกับการทำธุรกิจปัจจุบัน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจหลังช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ที่ผ่านมาชะลอตัวลง เข้าใจว่าการที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากกังวลเรื่องของภาวะเงินเฟ้อและเงินไหลออก แต่ตอนนี้เงินเฟ้อของไทยค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว ฝ่ายที่ดูแลเรื่องดอกเบี้ย ไม่ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงต้องพิจารณาดอกเบี้ยลงแล้วว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจกลับมาได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเอสเอ็มอี เพราะคนทำธุรกิจในตอนนี้มีภาระค่อนข้างสูง และอัตราดอกเบี้ยเหล่านี้จะส่งผ่านไปยังผู้บริโภค

“สำหรับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เรื่องดอกเบี้ยเป็นต้นทุนค่อนข้างสำคัญมาก เพราะลูกค้าที่ผ่อนดาวน์และผ่อนค่างวดอีก 30 ปี ถ้าขึ้นดอกเบี้ย 1% จะทำให้อำนาจในการซื้อหายไปประมาณ 7-8% อย่างไรก็ตาม คงต้องฝากให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาเรื่องนี้ใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาดอกเบี้ยปรับขึ้นกว่า 2% ต้องค่อยๆ พิจารณาปรับลดลง รวมถึงดูสถานการณ์ต่างประเทศด้วยว่าเป็นอย่างไร” นายอุทัยกล่าว

นายอุทัยกล่าวว่า ด้านสถานการณ์ตลาดหุ้นกู้ที่นักลงทุนยังไม่ค่อยเชื่อมั่นนั้น รัฐบาลได้เข้ามาดูแล้ว โดยตั้งกองทุนขึ้นมา ในแง่ของแสนสิริเองการออกหุ้นกู้ไม่มีปัญหา ซึ่งเมื่อปลายปี 2566 ที่ออกไปยังขายได้เต็มปริมาณวงเงินที่ต้องการขาย ทั้งนี้ คงต้องแยกแยะเพราะความแข็งแกร่งแต่ละบริษัทไม่เหมือนกัน แต่เชื่อว่าถ้าหากเศรษฐกิจดีปัญหาเหล่านี้จะบรรเทาลงไป ซึ่งในปี 2567 แสนสิริมียอดโรลโอเวอร์ไม่ถึง 10,000 ล้านบาท และอยู่ในปริมาณที่แต่ละไตรมาสสามารถโรลโอเวอร์ได้อยู่แล้ว เพราะมีความแข็งแกร่งและฐานะการขายอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้

Advertisement

ด้าน นายอิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า วันนี้ (10 มกราคม) สมาคมด้านอสังหาริมทรัพย์ 7 สมาคม ได้แก่ คณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร, สมาคมอาคารชุดไทย ,สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย, สมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์, สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน จะเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ หลังจากรัฐต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมการโอนเหลือ 1% และค่าจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทออกไป 1 ปี ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ซึ่งจะหารือออกมาตรการเพิ่มเติม

นายอิสระกล่าวว่า เช่น ลดภาษีธุรกิจเฉพาะ, ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2567, ยกเลิกมาตรการ LTV ชั่วคราว, ฟื้นโครงการบ้านดีมีดาวน์, ลดขนาดแปลงที่ดินจัดสรรของบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย เนื่องจากราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นมากในปัจจุบัน ทั้งนี้ ในบางมาตรการที่เสนอเป็นมาตรการที่ต้องใช้เวลา หลังจากนี้นายกรัฐมนตรีคงตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาร่วมกันต่อไป

นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า สมาคมได้ร่วมกับอีก 6 องค์กรด้านอสังหาริมทรัพย์จัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการอสังหา เพื่อยื่นให้นายกรัฐมนตรี โดยสมาคมได้เตรียมข้อเสนอให้มีการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง ทั้งนี้ จะยึดเอามูลค่าการก่อสร้างบ้านตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างที่ติดอากรแสตมป์ (อ.ส.4) กับกรมสรรพากร เพื่อนำไปเป็นหลักฐานการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาในรอบภาษีปีถัดไปได้ในอัตราลดหย่อนล้านละ 10,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งจะช่วยลดภาระให้กับผู้ที่ต้องการการปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง รวมทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกภาคส่วนที่เชื่อมโยงกับธุรกิจรับสร้างบ้านได้ด้วย

Advertisement

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวยังเป็นการจูงใจให้บริษัทผู้รับสร้างบ้านที่ทำธุรกิจอยู่ทั่วประเทศ และยังไม่ได้จดทะเบียนนิติบุคคลจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ

ขณะที่ นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่รัฐออกมาตรการลดค่าโอนและจำนองบ้านไม่เกิน 3 ล้าน มีผลทางจิตวิทยา แต่คงไม่มีผลต่อตลาดมากนัก สิ่งที่อยากจะขอคือเลิกมาตรการ LTV ชั่วคราว 2-3 ปี เพราะทำให้คนระดับกลาง-ล่างเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายกู้ได้ 100% และยังกระตุ้นเศรษฐีที่มีเงินเก็บมาซื้อของชิ้นใหญ่อย่างบ้านและคอนโดมิเนียม เพราะเป็นกลุ่มมีกำลังซื้อ มีเครดิตในการขอสินเชื่อ โดยมองว่าหากรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นอสังหาเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่ามองเฉพาะระดับกลาง-ล่าง ต้องมองคนมีกำลังซื้อสูงด้วย จะได้ผลดีกว่าตลาดล่าง

นายประเสริฐกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ต้องมีการส่งเสริมการซื้ออสังหาของต่างชาติ เช่น ปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียม ภาษีต่างๆ ให้สูงกว่าคนไทย พร้อมกำหนดพื้นที่ที่ต่างชาติสามารถซื้อได้ให้ชัดเจน และขยายโควต้าให้ซื้อคอนโดมิเนียมได้มากกว่า 49% ส่วนบ้านให้ซื้อในโครงการจัดสรรและซื้อได้ไม่เกิน 25% และขยายเวลาการเช่าจาก 30 ปี เป็น 60 ปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image