พีระพันธุ์ ตรึงพลังงานตลอดปี 67 ทั้ง น้ำมัน-ค่าไฟ-แอลพีจี-เอ็นจีวี

พีระพันธุ์ ตรึงพลังงานตลอดปี 67 ทั้ง น้ำมัน-ค่าไฟ-แอลพีจี-เอ็นจีวี

เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่กระทรวงพลังงาน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แถลงผลงานกระทรวงพลังงานปี 2566 และแผนงานปี 2567 หัวข้อ ปีแห่งการขับเคลื่อนพลังงานไทย สู่อนาคตที่ดีกว่า ว่า ผลงานสำคัญของกระทรวงพลังงานปีที่ผ่านมาคือ การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง อาทิ ค่าไฟฟ้า

ล่าสุดงวดเดือนมกราคม-เมษายน อยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย และกลุ่มเปราะบาง 3.99 บาทต่อหน่วย ขณะที่น้ำมันกลุ่มดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ลดน้ำมันกลุ่มเบนซินโดยเฉพาะน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ราคาลดลง 2.50 บาทต่อลิตร นอกจากนี้ยังตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) ด้วย

“ประเด็นค่าไฟได้มีการปรับโครงสร้างก๊าซธรรมชาติด้วยการบริหารให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติใช้ก๊าซในราคาพูลก๊าซ คือราคาเฉลี่ยจากทุกแหล่งที่มา ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้ ถือเป็นความสำเร็จหนึ่งในการปรับโครงสร้างพลังงานประเทศที่ผมประกาศไว้” นายพีระพันธุ์กล่าว

ADVERTISMENT

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับปี 2567 จะดูแลราคาพลังงานให้อยู่ในระดับนี้ต่อไปตลอดปีนี้ ทั้งค่าไฟฟ้าที่เริ่มเห็นสัญญาณต้นทุนทรงตัว เพราะจะมีปริมาณก๊าซในแหล่งอ่าวไทยเพิ่มขึ้น รวมทั้งน้ำมัน โดยเฉพาะดีเซลต้องอยู่ระดับไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร นอกจากนี้ราคาแอลพีจีและเอ็นจีวีจะดูแลให้อยู่ระดับนี้ต่อไปด้วยเช่นกัน

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันในปีนี้จะเดินหน้า รื้อ ลด ปลด สร้าง เต็มรูปแบบ ควบคู่การดูแลราคาพลังงาน คาดว่ากฎหมายหลายฉบับที่ปรับแก้ หรือยกร่างใหม่จะชัดเจนทั้งหมด อาทิ ประเด็นโครงสร้างราคาน้ำมัน ปัจจุบันประกอบด้วยราคาหน้าโรงกลั่นของฝั่งเอกชน บวกฝั่งรัฐคือภาษีต่างๆ บวกส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือกองทุนอุดหนุน ซึ่งฝั่งรัฐกลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเกือบ 100% ดังนั้น สิ่งที่ทำได้ทันทีคือการหารือกับกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยในระดับรัฐมนตรีเพื่อเป็นนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนอย่างถาวร

ADVERTISMENT

“ส่วนต้นทุนหน้าโรงกลั่นเมื่อแก้กฎหมายแล้ว กระทรวงพลังงานจะมีอำนาจเรียกดูข้อมูลที่เอกชนอ้างเป็นความลับทางการค้า ทั้งหมดนี้ราคาน้ำมันของไทยจะลดลงด้วยโครงสร้างที่เป็นธรรมจริงๆ” นายพีระพันธุ์กล่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวถึงกรณีการตรึงราคาดีเซล 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม 2567) ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยไม่มีการช่วยเหลือทางภาษีจากกระทรวงการคลัง ว่า คาดว่าวันที่ 16 มกราคมนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอคือ ลดภาษีดีเซลเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยรายละเอียดอยู่ที่กระทรวงการคลังในการพิจารณาอัตราและช่วงเวลาการสนับสนุน

รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 1-2 บาทต่อลิตร เพื่อดูแลราคาดีเซลจากปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนขาเดียวระดับ 3 บาทต่อลิตร ทำให้ล่าสุดกองทุนติดลบระดับ 80,000 ล้านบาทแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image