‘อนุชา’ เตรียมลดค่าธรรมเนียมสัตว์น้ำผ่านท่า หวังลดภาระชาวประมง ด้าน อสป. เผยความคืบหน้า ยุติเก็บค่าเช่ายกหนี้ผู้ค้า แก้ปัญหาสู่ข้อยุติแล้ว
เมื่อวันที่ 15 มกราคม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านชุมชนสะพานปลาจังหวัดชุมพร พร้อมมอบนโยบายแนวทางการขับเคลื่อนงานขององค์การสะพานปลา (อสป.) โดยมี นายวรัตม์ มาประณีต รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จังหวัดชุมพร นางสาวอนงค์นาถ จ่าแก้ว ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายปรีดา ยังสุขสถาพร ผู้อำนวยการ อสป. ผู้บริหารและพนักงาน อสป. ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน เข้าร่วม ณ ท่าเทียบเรือประมงชุมพร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร
นายอนุชากล่าวว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากโดยการส่งเสริมอาชีพประมงและเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ให้เกิดความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ สำหรับตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองชุมพร ถือเป็นชุมชนประมงที่สำคัญแห่งหนึ่ง ซึ่งกระทรวงเกษตรฯได้ให้ความสำคัญ เนื่องจากอาชีพชาวประมงถือเป็นอาชีพดั้งเดิมจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชนและสร้างความเป็นอยู่ของพี่น้องให้ดีขึ้นได้ ดังนั้น เพื่อให้พี่น้องที่ประกอบอาชีพประมงได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดภาระค่าใช้จ่าย มีรายได้เพิ่มขึ้น จึงได้มอบแนวทางให้ อสป.เตรียมประกาศลดอัตราค่าธรรมเนียมสัตว์น้ำผ่านท่าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเพื่อมอบเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้กับชาวประมงทั่วประเทศต่อไป
นายอนุชากล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขปัญหากรณีชาวบ้านชุมชนสะพานปลาจังหวัดชุมพรได้ยื่นหนังสือร้องเรียน ว่าได้รับผลกระทบจากการเก็บค่าเช่าและสัญญาจาก อสป.นั้น ขณะนี้ได้รับรายงานว่าข้อร้องเรียนต่างๆ อสป.ได้ดำเนินการเร่งรัดแก้ไขจนถูกนำไปสู่ข้อยุติแล้ว ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่พึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้ง 2 ประเด็นหลัก
ได้แก่ 1.สำหรับพื้นที่ของท่าเทียบเรือประมงชุมพรดังกล่าว เป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ที่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) ให้พี่น้องประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งจังหวัดได้มอบให้ อสป.รับผิดชอบนั้น อสป.ดำเนินการยุติการเก็บค่าเช่าอาคารพาณิชย์ ค่าเช่าที่ดินต่างๆ ทั้งหมด และผู้เช่ารายใดที่มีการบอกเลิกสัญญาและมีการทำหนังสือรับสภาพหนี้เพื่อผ่อนชำระหนี้จะดำเนินการยุติหนี้ทันที
นายอนุชากล่าวอีกว่า 2.อสป.ได้เร่งรัดดำเนินการส่งคืนพื้นที่อาคารพาณิชย์และที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ บริเวณท่าเทียบเรือประมงชุมพร และส่งมอบให้กับกรมธนารักษ์เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ จากพื้นที่เดิม 140 ไร่ เหลือเพียงใช้ประโยชน์ตามภารกิจ ประมาณ 30 ไร่ สำหรับดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับท่าเทียบเรือประมง ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบกิจการแพปลา พ.ศ.2496 โดย อสป.จะจัดเก็บค่าธรรมเนียมสัตว์น้ำ และอื่นๆ ตามประกาศของ อสป. ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกรมที่ดิน ถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์ (ยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร) ต่อไป
นายอนุชากล่าวว่า ทั้งนี้ อสป.เริ่มเปิดดำเนินการท่าเทียบเรือประมงชุมพร เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2528 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมอาชีพประมงและแก้ปัญหาความเดือดร้อนในสถานที่จอดเรือประมง ขนถ่ายสัตว์น้้า และเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีระบบติดตามควบคุมกำกับดูแลคุณภาพสัตว์น้ำและสุขอนามัยของท่าเทียบเรือประมง และเป็นท่าเทียบเรือประมงที่ได้รับการตรวจประเมินสุขลักษณะท่าเทียบเรือประมง โดยกรมประมงปีละ 2 ครั้ง และได้รับการรับรองให้เป็นท่าเทียบเรือประมงสุขอนามัยเมื่อปี 2553 เป็นต้นมา