อสังหา ยื่นแบงก์ชาติ จี้เลิก LTV ปลดล็อกกู้ซื้อบ้านหลังที่2 ชี้หมดยุคเก็งกำไรแล้ว

อสังหา ยื่นแบงก์ชาติ จี้เลิก LTV ปลดล็อกกู้ซื้อบ้านหลังที่2 ชี้หมดยุคเก็งกำไรแล้ว

เมื่อวันที่ 18 มกราคม นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 มกราคม ทาง 7 องค์กรด้านอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร, สมาคมอาคารชุดไทย ,สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย, สมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์, สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อขอให้พิจารณาผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย Loan to Value หรือLTV เป็นการชั่วคราวในปี 2567

นายพีระพงศ์กล่าวว่า เนื่องจากตามที่ธปท.ได้ประกาศการใช้หลักเกณฑ์LTV ในปี 2562 ซึ่งต่อมาในปี 2563-2565 เกิดสถานการณ์โควิคขึ้น และธปท. ได้มีมาตรการผ่อนคลายหลักเกณฑ์ LTV ในช่วงปี 2565 และถูกยกเลิกในปี 2566 ซึ่งทั้ง 7 องค์กรด้านอสังหาริมทรัพย์มีความเห็นว่าภาคเศรษฐกิจโดยรวม และภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังมีการฟื้นตัวที่ไม่แข็งแรง จึงขอให้ธปท. พิจารณาผ่อนคลายหลักเกณฑ์ LTV เป็นการชั่วคราว ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีกำลังซื้อสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้มากขึ้นและส่งผลดีต่อธุรกิจเชื่อมโยง ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำเป็นจำนวนมาก

Advertisement

ชี้แบงก์เข้มปล่อยกู้ไร้เก็งกำไร

นายพีระพงศ์กล่าวว่า แม้มีมาตรการผ่อนคลายจากธปท.ให้แล้ว ทางสถาบันการเงินต่างๆ ยังคงพิจารณาสินเชื่อด้วยความรอบคอบ เข้มงวด และคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้เป็นหลัก เพื่อมิให้เกิดหนี้เสียหรือNPL ตามมา โดยเห็นได้จากอัตราการปฏิเสธสินเชื่อซึ่งมีจำนวน 40-60% (ขึ้นอยู่กับประเภทที่อยู่อาศัย)ในขณะเดียวกันตลาดที่อยู่อาศัยในขณะนี้ก็มิได้มีการซื้อเพื่อการเก็งกำไรแต่อย่างใด

“หากคลายมาตรการLTV ได้จะทำให้ดึงกำลังซื้อคนที่ต้องการซื้อบ้านหลังที่2 และหลังที่3 ใกล้ที่ทำงานหรือโรงเรียนลูก ซึ่งกลุ่มนี้มีกำลังซื้ออยู่แล้ว แต่เพราะภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ก็ไม่อยากนำเงินก้อนมาเป็นเงินดาวน์ 20-30% หากกู้ได้ 100% ทำให้ตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น และช่วยให้ตลาดอสังหาฯทุกระดับราคาดีขึ้น ซึ่งเมื่อปี 2565 ที่มีการเลิกมาตรการLTV ทำให้กระตุ้นได้ 20% ซึ่งตอนที่แบงก์ชาติยกเลิกมาตรการLTV จะขอดูภาพรวมตลาดปี 2566ก่อน ถึงจะนำกลับมาพิจารณา ซึ่งปีที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าตลาดอสังหาฯไม่ดีอย่างที่คิด”นายพีระพงศ์กล่าว

Advertisement

แนะธปท.เพิ่มดอกเบี้ยเงินฝาก

นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า มาตรการLTV ถ้าธปท.ผ่อนเกณฑ์ให้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้มันก็ไม่รู้จะทำยังไง ซึ่งเข้าใจธปท.คงจะระวังคนที่ซื้อบ้านหลังที่4 หลังที่5 หลังที่6 แต่คนซื้อบ้านหลังแรก ต้องการซื้อเป็นบ้านหลังที่2 เพื่ออยู่อาศัย เพราะหลักแรกอยู่ไกลมาก ตรงนี้คงต้องซัพพอร์ตให้ ซึ่งธปท.คงต้องไปพิจารณาดูว่ามาตรการLTV ที่เหวี่ยงแห่คุมทั้งหมดนี้ จะผ่อนเฉพาะบางจุด เพิ่มบางจุดหรือไม่

“ส่วนเรื่องดอกเบี้ยที่ไม่ปรับลดลง เข้าใจเป็นหน้าที่ของธปท.จะรักษาเสถียรภาพการเงินของประเทศ ไม่อยากทำให้การลดดอกเบี้ยไปกระตุ้นทำให้เกิดฟองสบู่ แต่ตอนนี้มองว่าช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้มันห่างกันมาก จริงๆและแบงก์พาณิชย์มีกำไรสูงโดยไม่มีเหตุผล สวนทางเศรษฐกิจ ถ้าธปท.ไม่ให้ลดดอกเบี้ย ต้องเพิ่มดอกเบี้ยเงินฝากให้ เพราะการเพิ่มตรงนี้ ทำให้คนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นได้เหมือนกัน”นายธงชัยกล่าว

นายธงชัยกล่าวว่า นอกจากนี้อยากให้รัฐบาลขยายโควต้าต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียมจาก 49% เป็น 70% เพื่อเพิ่มกำลังซื้อต่างชาติ เนื่องจากปัจจุบันในส่วนของบริษัทมีโครงการที่ต่างชาติซื้อเต็มโควต้าแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image