โนเบิล กางแผนปี’67 เปิด 7 โครงการ กว่า 1.4 หมื่นล้าน ลุยธุรกิจใหม่ เจาะลูกค้าต่างชาติ ลุ้น จีนคัมแบ๊ก
เมื่อวันที่ 18 มกราคม นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2566 บริษัทมียอดขาย 14,900 ล้านบาท จากสินค้าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ 6,600 ล้านบาท เปิดโครงการใหม่และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 8,300 ล้านบาท มียอดขายรอโอน มูลค่ากว่า 19,700 ล้านบาท ทยอยรับรู้ใน 3 ปี โดยปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่า 18,900 ล้านบาท ต่ำจากเป้าที่ตั้งไว้กว่า 20,000 ล้านบาทเล็กน้อย เนื่องจากเลื่อนเปิดบางโครงการเป็นไตรมาสแรกของปี 2567
นายธงชัยกล่าวว่า ในปี 2567 มีแผนเปิด 7 โครงการ มูลค่ารวม 14,310 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 10,230 ล้านบาท เปิดไตรมาส3และไตรมาส4 แบรนด์นิว ได้แก่ ทำลพัฒนาการ เนื้อที่ 4 ไร่ มูลค่า 2,100 ล้านบาท ,คูคต สเตชั่น เนื้อที่ 7 ไร่ มูลค่า 1,470 ล้านบาท,พระราม9-ดินแดงเฟส 1 เนื้อที่ 7 ไร่ มูลค่า 5,500 ล้านบาท และใกล้โลตัสแจ้งวัฒนะ เนื้อที่ 4 ไร่ มูลค่า 1,160 ล้านบาท
นายธงชัยกล่าวว่า ส่วนแนวราบมี 3 โครงการ มูลค่า 4,080 ล้านบาท ได้แก่ โนเบิล นอร์ธ กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ บ้านเดี่ยว เนื้อที่ 18 ไร่ มูลค่า 1,480 ล้านบาทเปิดไตรมาส1 ,นิวเชด ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด เนื้อที่ 44 ไร่ มูลค่า 1,700 ล้านบาท เปิดไตรมาส2 และนิว เซ็นเตอร์ เวสต์เดต บ้านเดี่ยว เนื้อที่ 18 ไร่ มูลค่า 900 ล้านบาท เปิดไตรมาส3 โดยปีนี้ตั้งเป้ามียอดขาย 18,000 ล้านบาท และรายได้ 14,000 ล้านบาท ยังเตรียมงบ 3,000 ล้านบาท ซื้อที่ดินเพิ่ม 3 แปลง ได้แก่ พระราม9 จะพัฒนาคอนโดมิเนียมมูลค่า 10,000 ล้านบาท ย่านประชาชื่น-แจ้งวัฒนะ พัฒนาคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ และบางนา-ตราด เนื้อที่กว่า 40 ไร่ เป็นการร่วมทุนกับกลุ่มบีทีเอสและสหพัฒน์ พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว
นายธงชัยกล่าวว่า อีกปัจจัยที่ทำให้บริษัทมียอดขายปี 2566 เพิ่มขึ้น คือ ลูกค้าต่างชาติ มียอดขายกว่า 5,700 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ ทำเลทองหล่อ สุขุมวิท วิทยุ เช่น โครงการโนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ ,โนเบิล สเตท 39 และ ดิ เอ็มบาสซี ไวร์เลส ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัทกับกลุ่มฮ่องกง แลนด์ ขณะนี้โครงการนี้มียอดขายต่างชาติเข้ามากว่า 2,200 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายตลาดลูกค้าต่างชาติไปในตลาดใหม่ๆเช่น ไต้หวัน เมียนมา สิงคโปร์ และฮ่องกง ชดเชยกำลังซื้อจากลูกค้าจีน ที่ยังไม่กลับมา โดยคาดว่าปีนี้ลูกค้าจีนจะมากขึ้นหลังเศรษฐกิจของจีนกลับมาดีขึ้น เป็นปัจจัยหนุนให้ยอดขายต่างชาติกลับมามากขึ้น ตั้งเป้ามียอดขายอยู่ที่ 6,000 ล้านบาทหรือ 30%ของยอดขายรวม
“ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 เชื่อว่าน่าจะเป็นปีที่ดีขึ้น ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวกลับมา ประกอบกับการมีรัฐบาลที่เริ่มดำเนินการนโยบายต่างๆ ได้เต็มปีเป็นปีแรก น่าจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาได้ไม่มากก็น้อย ขณะที่ดอกเบี้ยอยู่ในภาวะทรงตัว มีแนวโน้มลดลง จะทำให้นักลงทุนกล้าลงทุนมากขึ้น ส่วนยอดรีเจ็กต์เรตของบริษัทไม่สูงมากอยู่ที่ 5-10% เพราะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเป็นเรียลดีมานด์ ”นายธงชัยกล่าว
นายธงชัยกล่าวว่า นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้าต่อยอดธุรกิจให้มีความครบวงจรมากขึ้น โดยเพิ่มไลน์ธุรกิจใหม่ ภายใต้บริษัท เซิร์ฟ โซลูชั่น จำกัดที่ตั้งขึ้นมาเมื่อต้นปี 2566 เพื่อเดินหน้าธุรกิจใหม่ ทั้งธุรกิจบริหารนิติบุคคล ธุรกิจบริการฝากขาย-ปล่อยเช่า ธุรกิจการบริการจัดหาเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงธุรกิจสร้างรายได้ประจำ เช่น ธุรกิจการให้บริการสายไฟเบอร์ออฟติกในโครงการที่อยู่อาศัย ธุรกิจบริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ธุรกิจบริการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของโครงการที่อยู่อาศัย ยังมองหาธุรกิจใหม่ที่จะทำร่วมกับพันธมิตร เช่น ธุรกิจบริการพื้นที่ เก็บของ พร้อมตั้งเป้าในปี 2569 จะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งธุรกิจนี้จะทำให้ต่อจิ๊กซอว์ทำให้เราขายของได้ด้วย