บีโอไอมั่นใจไทยฮับลงทุนแล้ว1.1หมื่นล. ชงบอร์ดอีวีออกแพคเกจลงทุนแบตฯครั้งใหญ่
เมื่อวันที่ 21 มกราคม นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า กรณีการค้นพบแหล่งแร่ลิเธียมของไทยที่คาดว่าป้อนอีวีได้อย่างต่ำ 1 ล้านคัน เป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยที่จะพัฒนาไปสู่ฐานการผลิตแบตเตอรี่ของภูมิภาค และช่วยเสริมศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร
ปัจจุบันมีผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตแบตเตอรี่ จำนวน 38 โครงการ เงินลงทุนรวม 23,600 ล้านบาท แบ่งเป็นแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า 23 โครงการ เงินลงทุน 11,700 ล้านบาท และแบตเตอรี่ความจุสูงสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ 15 โครงการ เงินลงทุน 11,900 ล้านบาท เกือบทั้งหมดเป็นการผลิตในขั้น Battery Module และ Battery Pack
โดยมีผู้ผลิตรายสำคัญ อาทิ CATL และ Gotion ซึ่งร่วมมือกับบริษัทในเครือ ปตท., SVOLT ในเครือเกรท วอลล์ มอเตอร์, BYD, Draexlmaier ซึ่งป้อนค่ายรถยนต์เยอรมัน ขณะที่ผู้ผลิตในระดับต้นน้ำหรือ Battery Cell ยังมีเพียงรายเดียวคือ อมิตา เทคโนโลยี ในเครือพลังงานบริสุทธิ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการดึงการลงทุนจากรายอื่นๆ เพิ่มเติม
นายนฤตม์ กล่าวว่า เป้าหมายของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ(บอร์ดอีวี) ตามที่ได้หารือกัน คือ ต้องการส่งเสริมการสร้างฐานการผลิตแบตเตอรี่ในระดับ เซลล์ซึ่งเป็นต้นน้ำสำคัญ ที่มีคุณภาพมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อมาเสริมระบบนิเวศของฐานการผลิตอีวีในไทย บีโอไอในฐานะฝ่ายเลขานุการของบอร์ดอีวี จะร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ใช้จุดแข็งของประเทศไทย ศักยภาพของอุตสาหกรรมอีวี และโอกาสที่ค้นพบแหล่งแร่สำคัญมาต่อยอด ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตแบตเตอรี่ของภูมิภาค
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกลุ่มบริษัทเป้าหมาย เพื่อจัดทำมาตรการสนับสนุนการตั้งฐานการผลิต แบตเตอรี่ เซลล์ และรูปแบบของสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม ก่อนนำเสนอบอร์ดอีวีโดยเร็ว”นายนฤตม์กล่าว
