เงินบาทอ่อนค่า รับตลาดการเงินคาดเฟดไม่ลดดอกเร็ว หนุนดอลล์แข็งกดราคาทองป่วน

เงินบาทอ่อนค่าลง รับตลาดการเงินคาดเฟดยังไม่ลดดอกเร็ว หนุนดอลล์แข็งกดราคาทองป่วน

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.77 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.67 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.60-35.90 บาท/ดอลลาร์

นายพูน กล่าวว่า โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 35.56-35.78 บาทต่อดอลลาร์) โดยในช่วงก่อนตลาดรับรู้รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐฯ เงินบาทได้ทยอยแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และโฟลว์ขายทำกำไรการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ ก่อนที่เงินบาทจะผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง หลังรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างเชื่อว่า เฟดจะไม่รีบลดดอกเบี้ยตามที่ได้เคยประเมินไว้ ส่งผลให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง กดดันทั้งราคาทองคำและเงินบาท

นายพูน กล่าวว่า สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ตลาดทยอยรับรู้ในช่วง 20.15 น. ตามเวลาในประเทศไทย) ซึ่งเราประเมินว่า ECB จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Deposit Facility Rate) ไว้ที่ระดับ 4.00% ทว่าปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน คือ มุมมองของ ECB โดยเฉพาะมุมมองของประธาน ECB ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของ ECB ได้อย่างมีนัยสำคัญ

Advertisement

ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ คาดการณ์ครั้งแรกของอัตราการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 รวมถึง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) และสำหรับในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานยอดการส่งออกและนำเข้าของไทยล่าสุด เพื่อประกอบการประเมินทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2024

และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว เราประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดจะติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด โดยในช่วงนี้ รายงานผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นเทคฯ ใหญ่ ก็ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้พอสมควร

นายพูน กล่าวว่า สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท อาจเสี่ยงที่จะผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง หลังเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ตามการปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ย “เร็วและลึก” ของเฟดที่ตลาดได้เคยประเมินไว้ก่อนหน้า นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญปัจจัยกดดันเพิ่มเติมจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะทองคำ หลังราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงสู่โซนแนวรับระยะสั้น

Advertisement

นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจจำกัดอยู่ในโซน 35.80-35.90 บาทต่อดอลลาร์ (เราขยับโซนเล็กน้อย หลังจากวันก่อนหน้าเงินบาทได้อ่อนค่าทะลุ 35.80 บาทต่อดอลลาร์ ไปเล็กน้อย) เนื่องจาก หากบรรยากาศในตลาดการเงินฝั่งเอเชียเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ตามความหวังการฟื้นตัวของตลาดทุนจีนและเศรษฐกิจจีน ก็อาจช่วยหนุนให้นักลงทุนต่างชาติทยอยกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นเพิ่มเติมได้บ้าง หรือ อย่างน้อยก็อาจลดทอนแรงขายหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติได้บ้าง

อย่างไรก็ดี เงินบาทยังไม่สามารถกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ชัดเจน จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา หรือ นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสินทรัพย์ไทยต่อเนื่อง ซึ่งเราประเมินว่า ภาพดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากผู้เล่นในตลาดมั่นใจแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดมากขึ้น (ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงได้แน่นอน) ซึ่งอาจเกิดขึ้นพร้อมจังหวะการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ ทำให้โซนแนวรับของเงินบาทในระยะสั้นจะยังเป็นโซน 35.50 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดควรระวังความผันผวนของตลาดการเงินในช่วงทยอยรับรู้ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ โดยมีโอกาสที่จะเห็นเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงบ้าง ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินยูโร (EUR) หาก ECB ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย หรือ ยังไม่เริ่มพิจารณาถึงการปรับลดดอกเบี้ย ก่อนที่เงินดอลลาร์จะมีโอกาสพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นได้หลังจากนั้น หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดชัดเจน จนทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มกังวลว่า เฟดอาจจะลดดอกเบี้ยได้ตาม Dot Plot ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยที่น้อยกว่าและช้ากว่าที่ตลาดกำลังประเมินอยู่ล่าสุด

“ความผันผวนของเงินบาทที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมาผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และการเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง”นายพูน กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image