หนี้ครัวเรือนพุ่ง CHASE ทุ่ม 1 พันล. ลุยเจรจาพันธมิตรซื้อNPL ขยายพอร์ตเพิ่ม 50% รายได้โตกว่า 35%

CHASE ลุยเจรจาพันธมิตรซื้อหนี้เสียตั้งเป้า 1 พันล้าน ขยายพอร์ตเพิ่ม 50% รายได้โตกว่า 35% ระบุหนี้ครัวเรือนเพิ่มเป็นโอกาสของบริษัท

เมื่อวันที่ 31 มกราคม นายประชา ชัยสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทได้ซื้อพอร์ตสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ได้มูลหนี้ใหม่มาราว 10,000 ล้านบาท ส่งผลให้มูลหนี้คงค้างอยู่ในพอร์ตขึ้นมาอยู่แตะระดับ 33,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ซื้อหนี้ได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์

สำหรับปี 2567 มองว่าเป็นปีที่ดีของบริษัทและจะเป็นอีกปีหนึ่งที่พุ่งทะยานฝ่าทุกข้อจำกัด เพื่อสร้าง New High Record โดยเห็นสัญญาณของสถาบันการเงินมีแนวโน้มนำหนี้เสียออกมาประมูลขายจำนวนมากขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบของโรค COVID-19 ที่เหลือจะสิ้นสุดลงในปี 2566 สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสที่จะได้มูลหนี้ใหม่เข้ามาบริหารเพิ่มเติมอีก ตลอดจนการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการวิเคราะห์ฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมในการชำระหนี้ แล้วปรับวิธีการจัดเก็บหนี้ให้เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งเป็นการยกระดับประสิทธิภาพในการบริหารจัดเก็บหนี้ของบริษัท รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า นำไปสู่การสร้างความแข็งแกร่งด้านอัตราความสำเร็จในการจัดเก็บหนี้ที่สูงขึ้น

น.ส.วรลักษณ์ ชัยสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน เชฎฐ์ เอเชีย กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเข้าซื้อพอร์ตเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมขยายทีมงานติดตามทวงถามหนี้ และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงพอร์ตลงทุนในระยะยาวโดยการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า อีกทั้งการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ จะยิ่งช่วยให้บริษัททำงานได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น สอดรับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล โดยพร้อมเปิดตัว Mobile Application เพื่อเพิ่มช่องทางในการสื่อสารและอำนวยความสะดวกลูกค้าให้สามารถทำรายการธุรกรรมได้ด้วยตนเอง สำหรับธุรกิจติดตามทวงถามหนี้ปีนี้ บริษัทจะขยายบริการไปยัง Non-bank และกลุ่มธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติม คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ทั้งนี้ จากการใช้กลยุทธ์ที่วางไว้ โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 30-40% แตะ 965 ล้านบาท และยอดจัดเก็บหนี้ที่จะเติบโตกว่า 50% จากปีก่อน

Advertisement

“จากการเดินหน้าตามกรอบกลยุทธ์ ที่เน้นการเติบโตในธุรกิจหลัก เรามั่นใจว่าจะบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ และมองเป้าหมายระยะยาวในอีก 5 ปีข้างหน้า มูลค่าพอร์ตจะไปถึงที่แสนล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทเชื่อว่าการทำดีล M&A จะเป็นการเพิ่มโอกาสทางรายได้ของบริษัท ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงการเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตและเพิ่มมูลค่าให้แก่บริษัท ตลอดจนต่อยอดธุรกิจหลัก ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” คุณประชากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image