นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดำเนินการอย่างเร่งด่วน ในปี 2560 ให้มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและเอสเอ็มอีของไทย โดยพัฒนาต้นแบบร้านค้าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น การสร้างความเข้มแข็งให้กับร้านค้าชุมชนไทย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 19,000 ร้านค้าทั่วประเทศ สร้างเครือข่ายธุรกิจในพื้นที่ผ่านกลไกต่างๆ ที่มีอยู่ของทั้งภาครัฐและเอกชน ในส่วนสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี ผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่ม ต่อยอดธุรกิจ และสร้างเครือข่ายระหว่างกัน และนำนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีมาใช้ขับเคลื่อน
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ใช้เอสเอ็มอีที่มีศักยภาพเป็นพี่เลี้ยงและคู่ค้าให้แก่สตาร์ทอัพ เพื่อดันให้แจ้งเกิดบนถนนสายธุรกิจได้รวดเร็วและถูกทางมากยิ่งขึ้น พัฒนาให้เป็นสมาร์ทเอสเอ็มอีอย่างเต็มตัว ด้วยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน เชื่อมโยงตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้การพัฒนาแต่ละพื้นที่สามารถเติบโตได้ด้วยตนเอง ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนบทบาทภาครัฐให้เป็นผู้อำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ และการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้สตาร์ทอัพเกิดได้ง่ายขึ้น
“การขยายช่องทางการตลาดสู่ออนไลน์เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับภาครัฐและภาคธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงควรใช้อี-คอมเมิร์ซ เป็นกลไกสำคัญในการช่วยขยายตลาดและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ทิ้งช่องทางการตลาดเดิมๆ คือ การตลาดผ่านหน้าร้านค้า หรือห้างสรรพสินค้า เพื่อให้เกิดการสอดประสานทางด้านการตลาดได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น”
