ซีอีโอ แบงก์กรุงเทพ ชี้ กนง.คงดอกเบี้ย 2.50% สอดคล้อง ศก. ยันธนาคารปรับดอกเอื้อลูกค้าทุกกลุ่ม
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยแผนการดำเนินงานของธนาคารในปี 2567 ว่า ธนาคารประเมินสินเชื่อปีนี้จะเติบโต 3-5% ตามคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยปัจจัยหนุนหลักยังมาจากการส่องออกและการท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจ ประกอบกับการสนับสนุนลูกค้าให้ออกไปค้าขายและขยายการลงทุนในภูมิภาคมากขึ้น ตามเทรนด์การปรับฐานการผลิตโลก
นายชาติศิริ กล่าวว่า ขณะที่ด้านคุณภาพสินเชื่อ ประเมินหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ แม้จะมีการแกว่งตัวขึ้นลงบ้าง แต่ไม่ได้สร้างความกังวลให้กับธนาคาร จากเศรษฐกิจที่ยังเติบโตพอประมาณราว 3%
ขณะที่ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ของธนาคาร ภายหลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น ธปท.พิจารณาอัตราดอกเบี้ยได้เหมาะสมกับเสถียรภาพเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ถ้ามองเทรนด์อัตราดอกเบี้ยของเมืองไทยก็เป็นอัตราดอกเบี้ยที่เกือบจะต่ำที่สุดในภูมิภาคนี้และในของโลกนี้ด้วยซ้ำ
“สำหรับผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในครั้งถัดไป หากมีการปรับอัตราดอกเบี้ย และธนาคารมีทิศทางอย่างไรนั้น ที่ผ่านมาธนาคารมีการปรับอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่มไปแล้ว เช่น ลูกค้าที่ต้องการปรับโครงสร้างหนี้ ก็มีการปรับปรุงอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสม” นายชาติศิริ กล่าว
นายชาติศิริ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนลูกค้าอย่างเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถปรับตัว ซึ่งรวมไปถึงการทำการธนาคารอย่างยั่งยืน (Sustainable Banking) การให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) การเตรียมความพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ (Climate Change)
ขณะเดียวกัน ธนาคารพยายามเพิ่มขีดความสามารถให้ลูกค้า เพื่อที่ลูกค้าจะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานโลก (Global Supply Chain) โดยตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม คือ การช่วยหาตลาดเพิ่ม การสนับสนุนการขยายการลงทุน การใช้เครือข่ายต่างประเทศของธนาคารในการสนับสนุนการนำเข้า ส่งออก และการลงทุน รวมถึงการแนะนำคู่ค้าเพิ่มเติม
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารเปิดตัวโครงการสินเชื่อบัวหลวงเพื่อการปรับตัวธุรกิจ (Bualuang Transformation Loan) เพื่อช่วยธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการปรับตัว สร้างความสามารถในการแข่งขัน สามารถใช้นวัตกรรมหรือ ESG เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ โดยมีมูลค่าโครงการรวม 20,000 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 5%
นายชาติศิริ กล่าวว่า ด้านธุรกิจต่างประเทศปีนี้ ตั้งเป้าหมายเติบโต 3-5% เช่นกัน โดยประเมินว่าธุรกิจในภูมิภาคจมีโอกาสขยายตัวจากการปรับฐานการผลิต (Supply Chain Relocation) ซึ่งอาเซียนเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักลงทุนสนใจ นอกจากไทยแล้ว เวียดนามและอินโดนีเซีย ก็เป็นเป้าหมายการลงทุนที่สำคัญ ปัจจุบันธนาคารกรุงเทพมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศประมาณ 25% ของพอร์ตสินเชื่อของธนาคาร
ขณะที่แผนการลงทุนในปีนี้ ธนาคารจะเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีเป็นหลัก จากเทรนด์การเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล (Digitalization) ที่เป็นหัวใจสำคัญในการเป็นส่วนต่อประสาน (Interface) กับลูกค้า ทั้งลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคล
“สำหรับความเสี่ยงในปี 2567 มองว่าประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitic) เป็นความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งธนาคารเองพยายามเตรียมความพร้อมให้แก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ามีความแข็งแกร่ง มีขีดความสามารถในการแข่งขัน และมีความยืนหยุ่นต่อสภาพเศรษฐกิจได้” นายชาติศิริ กล่าว