เงินบาทแข็งค่า กสิกรฯคาดสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 35.20-35.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ

แฟ้มภาพ

“เงินบาทแข็งค่าท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ จากความกังวลต่อนโยบายทรัมป์ ขณะที่ หุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 2 เดือนที่ 35.19 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนลงช่วงบวกลงในช่วงปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทปรับตัวแข็งค่าในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงเทขายเมื่อเทียบกับเงินหลายสกุลท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกบางส่วนลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังจากเงินดอลลาร์ฯ กลับมาได้รับแรงหนุนอีกครั้งตามการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ประกอบกับเริ่มมีแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชันก่อนการประชุมเฟดในช่วงปลายเดือน

สำหรับในวันศุกร์ (27 ม.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 35.28 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าเมื่อเทียบกับระดับ 35.41 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (20 ม.ค.)

baht

Advertisement

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (30 ม.ค.-3 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.20-35.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของนักลงทุนน่าจะอยู่ที่ผลการประชุม FOMC และความคืบหน้าเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ดัชนี PMI ภาคการผลิต-ภาคบริการ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. ยอดสั่งซื้อของโรงงาน รายจ่ายด้านการก่อสร้าง ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย รายได้และการบริโภคส่วนบุคคลเดือนธ.ค. รวมถึงดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางอังกฤษด้วยเช่นกัน

ส่วนดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,590.80 จุด เพิ่มขึ้น 1.78% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน เพิ่มขึ้น 11.35% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 57,403.16 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 643.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.81% จากสัปดาห์ก่อน

ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นช่วงต้น-กลางสัปดาห์ จากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ ท่ามกลางการรายงานผลปรกอบการบริษัทไตรมาส 4/59 ที่ส่วนใหญ่ออกมาดี กอปรกับมีแรงซื้อทางเทคนิค อย่างไรก็ดี ตลาดเผชิญกับแรงขายทำกำไรในวันศุกร์ ท่ามกลางความกังวลต่อนโยบายกีดกันการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่สร้างความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก

Advertisement

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (30 ม.ค.- 3 ก.พ.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,580 และ 1,565 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,605 และ 1,620 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐฯ รวมทั้งการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทย ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีต้นทุนค่าจ้างแรงงาน และการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ การรายงานข้อมูลจีดีพี ไตรมาส 4/59 ของยูโรโซน รวมทั้งข้อมูล PMIs ของจีนและประเทศในยุโรป ตลอดจนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ และญี่ปุ่น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image