ดันหมูกระทะ ซอฟต์พาวเวอร์ ที่น่าจะช่วยคนเลี้ยงหมูได้

ดันหมูกระทะ ซอฟต์พาวเวอร์ ที่น่าจะช่วยคนเลี้ยงหมูได้

รัฐบาลพยายามผลักดันซอฟต์พาวเวอร์หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านแฟชั่น (Fashion) กางเกงช้าง-กางเกงแมว ด้านศิลปะป้องกันตัว (Fighting) อย่างมวยไทย หรือ เทศกาลประเพณี (Festival) เช่น สงกรานต์ที่จะสาดน้ำกันให้ฉ่ำไป 21 วัน รวมถึง หนังไทย (Film) ที่ใครๆ ก็เอาใจเชียร์ แต่คงไม่มีอะไรเป็น สุดยอดซอฟต์พาวเวอร์ ของไทยที่มัดใจคนทั้งโลกได้เกินไปกว่า FOOD หรือ อาหารไทย ที่คนทั่วโลกยอมรับ ทั้งต้มยำกุ้ง ผัดไทย ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งน่าจะรวม หมูกระทะ ไปด้วยอีกสักเมนู

ถ้าการยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวหมายถึง การทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแต่ได้ประโยชน์ตามมาหลายสิ่ง การสนับสนุนให้ หมูกระทะ เป็นเมนูซอฟต์พาวเวอร์ของไทย น่าจะเป็นอีกตัวอย่างเห็นได้ชัด เพราะส่งผลให้เกิดประโยชน์ตามมาอีกหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู และ GDP ภาคเกษตรของประเทศ

เนื่องจากหมูกระทะ ใช้วัตถุดิบหลักคือ “เนื้อหมู” ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรตัวสำคัญของไทย เป็นโปรตีนยอดนิยมที่คนไทยบริโภคกันมากถึง 22 กก./ คน/ ปี การขึ้นลงทั้งราคาและปริมาณของเนื้อหมูจึงมีผลต่อ GDP ภาคเกษตรของประเทศ เห็นได้จากปีที่ผ่านมา GDP ภาคเกษตรติดลบ เพราะปริมาณหมูเถื่อนจำนวนมหาศาลเข้ามาทำลายเศรษฐกิจของชาติที่ไม่เพียงทำให้เกษตรกรยุติอาชีพการเลี้ยงหมูไปหลายราย แม้แต่ระดับบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ ยังได้รับผลกระทบจากหมูเถื่อน ต้องแถลงผลประกอบการขาดทุนพร้อมกันถึง 3 แห่ง

ADVERTISMENT

การผลักดันให้หมูกระทะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทยก็ไม่ใช่เรื่องยาก เนื่องจากเป็นเมนูอร่อยถูกปากคนแทบทุกชาติทุกภาษา ใครๆก็เข้าถึงได้ง่าย คนไทยทำกินกันเองที่บ้านก็ได้ ผู้ประกอบการร้านอาหารปรุงเสริฟนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนก็ได้ เชื่อว่าจะช่วยสร้างชื่อเสียงอาหารไทยและโปรโมทประเทศได้ตามเป้าประสงค์ของรัฐบาล ที่สำคัญ การรณรงค์บริโภคเนื้อหมูผ่านเมนูนี้ ไม่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลเหมือนเมกะโปรเจ็กท์อื่นๆ แต่สามารถช่วยเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ นับเป็นแคมเปญกระตุ้นการบริโภคเนื้อหมูที่มีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มช่องทางการขายเนื้อหมูให้แก่เกษตรกรให้ลืมตาอ้าปากได้บ้างในขณะที่กำลังเผชิญปัญหาหนัก จากการขาดทุนสะสมเพราะถูกหมูเถื่อนรังแก

ดังที่ ดร.สุวรรณา สายรวมญาติ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้กล่าวผ่านเวทีสัมมนาว่า “ภาครัฐต้องออกนโยบายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู การออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นการบริโภคหมู เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ใช้เงินไม่มาก เข้าถึงง่าย ทำทานได้เอง เป็นความหวังเล็กๆ ที่พอจะช่วยให้ชาวหมูไปต่อกันได้”

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรของไทย บอบช้ำอย่างหนักจากการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูผิดกฎหมาย หรือหมูเถื่อน ที่เข้ามาเบียดตลาด ขายตัดราคา จนเกษตรกรไทยต้องขาดทุนสะสมมานานนับปี สุดท้ายหลายรายตัดสินใจเลิกอาชีพ เนื่องจากรัฐไม่สามารถแก้ปัญหาหมูเถื่อนอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้เสียที มีแต่สาวไปจนเจอตอ เจอผู้มีอิทธิพล เจอมาเฟีย แล้วคดีก็ค่อยๆ เงียบลง จนเกษตรกรที่เหลืออยู่กำลังจะหมดหวังกับคำพูดลมๆแล้งๆของผู้บริหารบ้านเมืองที่ว่าจะถอนรากถอนโคนขบวนการหมูเถื่อนได้ภายในวันนั้นวันนี้ ซึ่งสุดท้าย…ก็เหลวทุกที

ความเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ของเกษตรกรเป็นไปในเรื่องการเรียกร้องรัฐให้ปราบปรามหมูเถื่อนให้สำเร็จ และขอให้รัฐหาหนทางลดต้นทุนการผลิตในช่วงที่วัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูง แต่จนถึงวันนี้ ราคาหมูหน้าฟาร์มก็ยังไม่คุ้มต้นทุน จนน่าหวั่นเกรงว่าเกษตรกรจะทยอยเลิกอาชีพตามมาอีก การหาทางช่วยให้เกษตรกรสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงหมู รวมถึง พยุงอุตสาหกรรมหมูของประเทศให้สร้างผลผลิตอาหารป้อนคนไทยต่อไปได้ ผ่านนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลด้วยเมนู “หมูกระทะ” จึงเป็นอีกแนวทางที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม ต้องมั่นใจว่าเนื้อหมูที่ใช้ปรุงเมนูนี้จะไม่ใช่หมูเถื่อนที่ยังซุกซ่อนอยู่ตามห้องเย็นต่างๆ ทั่วประเทศ ประเด็นสำคัญที่สุด รัฐต้องเร่งถอนรากถอนโคน “ขบวนการหมูเถื่อน” ดังที่ผู้นำบ้านเมืองหลายคนออกมาให้คำมั่นสัญญา เกษตรกรและคนไทยทุกคนรอที่จะเห็นรัฐบาลทำลายขบวนการนี้ ไปพร้อมกับการปัดกวาดการทุจริตคอรัปชั่น ปรับปรุงการทำงานของเจ้าหน้าที่ และจัดการมาเฟียสังคม ตลอดจนทำลายเหลือบลิ้นไรที่กัดกินประเทศให้หมดไปโดยเร็ว

ลักขณา นิราวัลย์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image