เซ็นทรัลทุ่ม 1.21 แสนล้าน รีโนเวตใหญ่ 6 ห้าง ลุย 5 เมกะมิกซ์ยูส สร้างเมืองรีเทล
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม น.ส.วัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนภายใน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2567-2571 จะลงทุนต่อเนื่อง 121,000 ล้านบาท โดย 60% สำหรับโครงการใหม่, 20% ในโครงการรีโนเวต และ 20% สำหรับขยายพื้นที่เพิ่มและโมเดลใหม่ โดยลงทุนเฉลี่ยปีละ 20,000 ล้านบาท
น.ส.วัลยากล่าวว่า โดยในปี 2567 มีโครงการที่เปิดบริการใหม่ทั้งสิ้น 13 โครงการ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครสวรรค์ เปิดเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา และวันที่ 30 มีนาคมนี้ จะเปิด เซ็นทรัล นครปฐม ยังมี โครงการที่อยู่อาศัย 10 โครงการ และ โรงแรมแห่งใหม่ที่ระยองที่จับมือกับเชนระดับโลก ทำให้ในปี 2567 จะมีศูนย์การค้า 42 โครงการ คอมมูนิตี้ มอลล์ 17 โครงการ ที่อยู่อาศัย 43 โครงการ, โรงแรม 10 โครงการ และออฟฟิศ 10 โครงการ ส่วนปี 2568 จะเปิด เซ็นทรัล กระบี่ มูลค่า 4,500 ล้านบาท
“ทุกโครงการเราพัฒนาในรูปแบบมิกซ์ยูส มีศูนย์การค้าเป็นตัวนำ เชื่อมโยงการพัฒนา ในวันที่ศูนย์การค้าเปิดจะเป็นวันที่เราลอนซ์โครงการที่อยู่อาศัย เช่น นครสรรค์เปิดศูนย์เมื่อเดือนมกราคม ขณะที่คอนโดก็เปิดขายวันแรกด้วย ต่อไปจะมีโรงพยาบาล นครปฐมวันเปิดศูนย์ จะเปิดขายคอนโดมิเนียม ขณะที่กระบี่มีพื้นที่ 103 ไร่ ปีหน้าเปิดศูนย์จะมีคอนโดมิเนียมและบ้านสไตล์รีสอร์ต ส่วนโรงแรมเป็นเฟสต่อไป ซึ่งที่นี่จะเป็นโครงการไลฟ์สไตล์คล้ายกับภูเก็ต” น.ส.วัลยากล่าว
น.ส.วัลยากล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโครงการมิกซ์ยูส 20 โครงการ เตรียมจะขยายในกรุงเทพฯและเมืองรองเพิ่ม อาทิ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี จะทำให้ปี 2568 มีโครงการมิกซ์ยูสเป็น 25 โครงการ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการกระตุ้นจีดีพี
น.ส.วัลยากล่าวด้วยว่า ในส่วนของการรีโนเวต ภายใน 5 ปีนี้จะใช้เงินลงทุน 23,000 ล้านบาท สำหรับปรับโฉม 6 ศูนย์การค้า ซึ่งเป็นการลงทุนเทียบชั้นศูนย์การค้าใหม่ ได้แก่ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า จะเติมเต็มไลฟสไตล์โซนปิ่นเกล้า รองรับกำลังซื้อที่สูงขึ้น, เซ็นทรัล บางนา เป็น District Transformation จับกลุ่มลูกค้า Top Tier ย่านบางนา
เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ สร้าง Concept Mall ใหม่ตอบโจทย์ Eco Art Lifestyle, เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ Build New Lifestyle Landmark คอนเซ็ปต์จะเป็นมิกซ์ยูส นอกจากศูนย์การค้าที่สร้างใหม่ อยู่ระหว่างพิจารณาจะมีโรงแรมหรือที่อยู่อาศัยหรือโรงแรม, เซ็นทรัล พัทยา ปรับโฉมใหม่รองรับกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยว และ เซ็นทรัล มารีน่า ปรับเป็น Outlet Format เพราะมองเห็นโอกาสจากพฤติกรรมการช้อปของนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่ง
“ในปีนี้ที่เราตั้งใจทำ คือ 3 มุมเมืองของกรุงเทพฯ ทางโซนเหนือคือเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ทางตะวันตกเซ็นทรัลปิ่นเกล้า และทางตะวันออกเซ็นทรัลบางนา ซึ่งทั้ง 3 สาขาเป็นสาขาสำคัญมากสำหรับเราและเราให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเรารู้ว่ากำลังซื้อดีขึ้น เราเองก็ต้องปรับเพื่อให้คู่ค้าปรับตาม ให้สอดคล้องกับวิถีเมือง วิถีคน รับกับการเจริญเติบโตของเมือง” น.ส.วัลยากล่าว
น.ส.วัลยากล่าวว่า ขณะเดียวกันมีแผนจะลงทุน โครงการเมกะมิกซ์ยูส 5 โครงการ มีพื้นที่รวมกันกว่า 2.2 ล้านตารางเมตร บนทำเลซุปเปอร์ไพร์มโลเคชั่น รอบกรุงเทพฯ ใช้เงินลงทุนแห่งละ 20,000 ล้านบาท หรืออาจจะมากกว่านั้น เพื่อพลิกโฉมรีเทลครั้งใหญ่ ปั้น The World’s New Magnitude เหมือนเมืองใหญ่ทั่วโลก โดยโครงการแรก ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค พร้อมเปิด โรงแรมดุสิตธานี โฉมใหม่เดือนกันยายนนี้ และกลางปี 2568 เปิด อาคารสำนักงานและศูนย์การค้าเซ็นทรัลพาร์ค อีก 4 แห่ง จะเปิดเผยรายละเอียดโครงการในครึ่งปีหลัง ส่วนใหญ่อยู่บริเวณเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ อาทิ พหลโยธิน พระราม 9 เป็นต้น
“ในช่วงปีที่ผ่านมาเราวางรากฐานและสร้างความสำเร็จ ในปีนี้ก็ยังคงมุ่งมั่น โดย 7 ปีที่ผ่านมาได้ลงทุนต่อเนื่องปีละ 15,000-22,000 ล้านบาท และในปี 2566 มีผลประกอบการนิวไฮ มีรายได้ 46,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% รวมถึงด้านทราฟฟิกศูนย์การค้าและยอดขายร้านค้าก็ดีกว่าเป้ามหมายถึง 15-20% และจ่ายเงินปันผลสูงที่สุด” น.ส.วัลยากล่าว
