ททท. ไม่ห่วง คนไทยแห่เที่ยวนอกพุ่ง หลังวีซ่าฟรี พร้อมบุกตลาดจีน-ญี่ปุ่นต่อเนื่อง

ททท. ไม่ห่วง คนไทยแห่เที่ยวนอกพุ่ง หลังวีซ่าฟรี พร้อมบุกตลาดจีน-ญี่ปุ่นต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลได้ประกาศใช้มาตรการวีซ่าฟรี เพื่อกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567 ก่อนจะใช้วีซ่าฟรีถาวรระหว่างไทยและจีน เริ่มเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา โดยผลจากการดำเนินมาตรการพบว่า นอกจากนักท่องเที่ยวจีนและชาติอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั้น ยังเห็นตลาดคนไทยเที่ยวนอกปรับตัวเติบโตมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะคนไทยไปเที่ยวจีน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าแล้ว ต้นทุนการเดินทางที่ลดลง ผสมกับความสะดวกในการเข้าจีนได้ง่ายขึ้น ทำให้คนไทยเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวในจีนเพิ่มขึ้น ซึ่งมองว่าไม่ได้เป็นเรื่องน่ากังวล หรือภาพจะซ้ำรอยตลาดยอดฮิตของไทยอย่างญี่ปุ่น ที่คนไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นจำนวนมาก จนทำให้คนญี่ปุ่นขาดดุลไทยในการมาท่องเที่ยวไทย เพราะตัวเลขการปรับเพิ่มขึ้นมาจากฐานเดิมที่อยู่ระดับต่ำ

“ปัจจัยบวกของการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีนที่เพิ่มขึ้น เป็นเรื่องสายการบินและเที่ยวบิน เพราะเมื่อมีคนไทยไปจีนมากขึ้น ก็เพิ่มโอกาสการปรับเพิ่มเที่ยวบินเพื่อขนนักท่องเที่ยวจีนกลับมายังประเทศไทยเช่นกัน รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เห็นการเติบโตได้ดีมาก คือ กลุ่มเที่ยวเป็นรางวัล (อินเซนทีฟ) ซึ่ง ททท.จะทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงให้เข้ามาเที่ยวไทยเติบโตต่อไป โดยในเดือนเมษายนนี้ จะมีกลุ่มอินเซนทีฟจากจีนเข้ามาเป็นกรุ๊ปใหญ่กว่า 1 หมื่นคน และคาดว่าจะเข้ามาเป็นกรุ๊ปใหญ่อีกหลายกรุ๊ป เนื่องจากเมื่อไม่ต้องขอวีซ่าแล้ว ต้นทุนการเดินทางก็ลดลง ความสะดวกในการเข้าประเทศไทยมีมากขึ้น ถือเป็นแรงจูงใจให้เข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นอีก“ นางสาวฐาปนีย์กล่าว

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า สำหรับสายการบิน จะมีการเปิดเส้นทางสู่เมืองใหม่ๆ มากขึ้น เนื่องจากขณะนี้พอมีวีซ่าฟรีระหว่างกัน เราเห็นเทรนด์การเข้ามาเที่ยวไทยจากชาวจีนเติบโตได้ดีมาก และมาจากมณฑลใหม่ในจีนมากขึ้น ไม่ได้กระจุกเพียงมณฑลที่เข้ามาเที่ยวไทยจำนวนมากๆ เป็นหลัก อาทิ เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เหมือนเดิมแล้ว จึงเชื่อว่าจากนี้จะมีสายการบินเพิ่มเส้นทางบินในมณฑลใหม่ของจีนมากขึ้น เพิ่มโอกาสการเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้นอีก โดยจะมีการสนับสนุนเส้นทางสู่เมืองรองของไทยมากกว่าเดิม เพื่อให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติไปยังจังหวัดเมืองรองมากขึ้น นอกจากนี้ ในปี 2567 จะเป็นปีแรกที่ทำคาราวานรถยนต์จีนมาเที่ยวไทยอย่างยิ่งใหญ่ ที่ถือเป็นการกลับมาทำคาราวานเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดโควิด-19 เมื่อปี 2563 ด้วย เป็นการทำตลาดควบคู่ทั้งทางอากาศและทางบก

Advertisement

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า จากผลสำรวจของบัตรเครดิตวีซ่า ปี 2566 พบว่าตลาดที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวอันดับหนึ่งยังเป็นญี่ปุ่น ตามมาด้วยเกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และสหรัฐ ทำให้ตลาดไทยเที่ยวญี่ปุ่นเสียดุลตลาดญี่ปุ่นเที่ยวไทยหรือคนญี่ปุ่นมาเที่ยวไทยน้อยกว่าคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น โดยในปี 2566 มีคนญี่ปุนเข้ามาเที่ยวไทยประมาณ 1 ล้านคน ถือว่ายังฟื้นตัวกลับมาไม่เท่าปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีคนญี่ปุ่นเข้ามาเที่ยวไทยที่ 1.8 ล้านคน โดยปี 2567 ตั้งเป้าหมายฟื้นตลาดญี่ปุ่นเข้ามาเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 70% ของปี 2562 หรือจำนวนอยู่ที่ 1.26 ล้านคน เพื่อให้ช่องว่างการดุลท่องเที่ยวลดลง สำหรับกรณีความกังวลปัญหาคนไทยลักลอบเข้าไปค้าแรงงานผิดกฎหมายในญี่ปุ่น จนญี่ปุ่นอาจไม่ให้วีซ่าฟรีกับไทยอีกนั้น ส่วนนี้มองว่าคนไทยเองต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง ว่าเข้าไปท่องเที่ยวก็คือ การไปเที่ยวจริงๆ ไม่ใช่แอบไปทำงาน เพราะคนญี่ปุ่นก็ยินดีต้อนรับคนไทยไปเที่ยว ชื่นชอบคนไทยและประเทศไทย ก็ไม่อยากให้มีการลักลอบทำงานแบบผิดกฎหมาย จนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในภาพรวม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image