นางสาวอรอนงค์ อุดมก้านตรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย สายธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง โดยคาดว่าสินเชื่อบ้านทั้งระบบจะอยู่ที่ 5.6 แสนล้านบาท โดยซีไอเอ็มบีตั้งเป้าสินเชื่อบ้านปี 2560 เติบกว่า 5% หรือมีการขยายตัวของสินเชื่อบ้านใหม่อยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อบ้านใหม่และบ้านมือสอง 1.2 หมื่นล้านบาท และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ 3 พันล้านบาท ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 6.5 หมื่นล้านบาท คาดปีนี้เติบโต 6-7% ส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ยังเพิ่มขึ้นจากยอดหนี้เดิม แต่ด้วยยุทธศาสตร์ใหม่ปีนี้จะคุมไว้ไม่เกิน 4.5% จากปัจจุบันที่ 4% ส่วนปี 2561 มั่นใจว่าลดลงต่ำกว่า 4% อย่างไรก็ตาม ธนาคารมองว่า ตลาดบ้านมือสองยังมีศักยภาพ เนื่องจากพฤติกรรมลูกค้ายุคใหม่ หันมาพิจารณาซื้อบ้านจากทำเลมากกว่า ไม่ยึดติดว่าจะต้องเป็นบ้านใหม่เท่านั้น เช่นเดียวกับกลุ่มคอนโดนมิเนียมในตลาดที่มีเป็นจำนวนมาก ขณะที่รายได้คนไทยน่าจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่น่าจะฟื้นตัวสูงกว่าปีทีผ่านมา
“ช่วงปีที่ผ่านมา ยอมรับว่า สถาบันการเงินต่างๆ ปล่อยกู้สินเชื่อบ้านได้ยาก และอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง โดยปีที่ผ่านมามียอดปฏิเสธขอสินเชื่อบ้านช่วงราคา 5-10 ล้านบาท อยู่ที่ 20% และราคา 1-2 ล้านสูงกว่า 50% ทำให้ภาพรวมยอดปฏิเสธสินเชื่อบ้านสูงกว่า 50% เนื่องจากบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทมีสัดส่วนสูงถึง 70% ของตลาดที่อยู่อาศัย โดยสาเหตุส่วนใหญ่เนื่องจากรายได้ผู้ขอกู้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด แต่ปีนี้ธนาคารจะเข้ามาบุกตลาดนี้ นอกจากเดินหน้าปล่อยกู้ตลาดบ้านใหม่ที่ธนาคารต่างๆ แข่งขันนำเสนอสินเชื่ออยู่แล้ว ยังรุกตลาดสินเชื่อบ้านมือสอง เพราะอยากสนับสนุนประชาชนที่อยากมีบ้านอยู่อาศัยจริงๆ และมีความสามารถในการผ่อนชำระ”นางสาวอรอนงค์ กล่าว
นางสาวอรอนงค์ กล่าวว่า ล่าสุด ธนาคารได้นำเสนอโปรโมชั่นสินเชื่อต่างๆ ประกอบด้วย สินเชื่อบ้าน Home Loan 4U สำหรับบ้านใหม่และบ้านมือสอง รวมถึงคอนโดมิเนียมจากทุกโครงการ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% นาน 12 เดือน หรือดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เริ่มต้นที่ 3.33% สำหรับพนักงานประจำที่มีรายได้ 3 หมื่นบาทขึ้นไป หลังจากนั้น MRR-1.75% ตลอดอายุสัญญา และสินเชื่อบ้าน Home Loan 4U สำหรับลูกค้าที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคาร ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 3.49% หลังจากนั้น MRR-2.25% ตลอดอายุสัญญา
นางสาวอรอนงค์ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มประชาชนที่ทำอาชีพอิสระ(ฟรีแลนซ์) และธุรกิจส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น และเข้าถึงระบบสินเชื่อได้ยาก เนื่องจากไม่มีเอกสารยืนยันชัดเจนให้ธนาคารพิจารณานั้น ตนเห็นว่า แนวทางที่ทำให้การอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารง่ายขึ้น คือ 1. ผู้กู้อาจจยื่นเอกสารประวัติการผ่อนชำระค่างวดรถที่ผ่านมา เช่น ผ่อนเดือนละ 1-2 หมื่น และหมดภาระหนี้ดังกล่าวแล้ว เพื่อสะท้อนให้ธนาคารเห็นว่า หากจะผ่อนสินเชื่อบ้าน ผู้ขอยื่นกู้มีศักยภาพผ่อนชำระสูงกว่าผ่อนค่างวดรถ 2.เงินฝากประจำ ก่อนยื่นขอสินเชื่อ อาจเปิดบัญชีเงินฝากประจำราว 5-7 พันบาทต่อเดือน ระยะประมาณ 2 ปี เพื่อให้ธนาคารเห็นวินัยทางการเงิน และความสามารถในรายรับ 3. ไม่มียอดผิดชำระค่าบัตรเครดิต ซึ่งสามารถชำระเต็มวงเงิน หรือขั้นต่ำ 10% ก็ตาม 4. ค่าเช่าหอพัก อพาร์ทเม้นท์รายเดือน สามารถสะท้อนให้ธนาคารเห็นได้เช่นกัน 5. แนะนำให้กู้ 70% ของราคาที่อยู่อาศัย เพื่อให้ธนาคารเห็นว่าผู้กู้ยังมีสภาพคล่อง จึงสามารถวางเงินดาวน์ได้
