เปิดชื่อหุ้นปันผลงาม โบรกคาดปีนี้บจ.จ่ายเพิ่มจากปีก่อน พลังงานเด่น ไอซีทีดรอป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทยอยประกาศผลประกอบการปี 2559 พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง จากการรวบรวมพบว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงว่าผู้ที่ซื้อหลักทรัพย์หลังขึ้นเครื่องหมายจะไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล ในเดือนกุมภาพันธ์ 4 บริษัทหากคิดที่ราคาปิดวันที่ 1 กุมภาพันธ์พบว่า บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 จ่ายปันผลมากที่สุดคิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 4.28% หรือ 1.02 บาทต่อหุ้น

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงต้นเดือนเมษายนเป็นช่วงที่นักลงทุนจะเข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการและข่าวการจ่ายปันผล หากนักลงทุนต้องการซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลแนะนำหุ้นที่จ่ายปันผลตั้งแต่ 3-4% ขึ้นไป ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า หุ้นที่จะจ่ายเงินปันผลในระดับสูงโดยคิดที่ราคาปิดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ คือ บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะจ่ายปันผลในระดับกว่า 5% หรือ 0.21 บาทต่อหุ้น บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในระดับสูงกว่า 5% หรือประมาณ 4 บาทต่อหุ้น บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตรา 4.9% ต่อหุ้น หรือประมาณ 0.19 บาทต่อหุ้น

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คาดว่าจ่ายปันผลในอัตรา 4.9% หรือ 0.19 บาทต่อหุ้น บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะจ่ายปันผล 4.5% หรือประมาณ 0.33 บาทต่อหุ้น บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตรา 4.1% บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตรา 3.8% หรือ 0.80 บาทต่อหุ้น บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตรา 3.8% หรือ 0.45 บาทต่อหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตรา 3.7% หรือประมาณ 2.66 บาทต่อหุ้น และบริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตรา 3.6% หรือ 0.12 บาทต่อหุ้น

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนไทยในปี 2559 จะเติบโตโดเด่นกว่า 30% เนื่องจากบริษัทพลังงานมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน ส่งผลให้กลุ่มพลังงานจะจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นจากปี 2558 อย่างแน่นอน แต่กลุ่มไอซีทีจะจ่ายในอัตราที่ลดลงเพราะกำไรได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่กลุ่มเหล็กแม้ผลประกอบการดีขึ้นแต่มักไม่จ่ายเงินปันผล อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นเพื่อรับปันผลแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาเป็นรายบริษัท และต้องดูนโยบายการจ่ายปันผลว่าจ่ายในอัตราเท่าใด บริษัทมีความมั่นคงในระยะยาวหรือไม่ เพราะหากไม่พิจารณาให้ดีมีโอกาสขาดทุนจากราคาหุ้นที่ปรับลดลง

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ในเดือนกุมภาพันธ์นี้คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะแกว่งตัวในกรอบแคบ จึงเห็นด้วยที่นักลงทุนบางรายจะเลือกเข้ามาซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลในระดับสูงแทน สำหรับสาเหตุที่ดัชนีหุ้นยังไม่ไปไหนเพราะยังไม่มีข่าวดีใหม่มาหนุนตลาด และมีปัขจัยต่างประเทศกดดัน โดยเฉพาะประเด็นนายโดนัลด์ ทรัมป์ มองกรอบหุ้นไทยในเดือนกุมภาพันธ์จะอยู่ที่ 1,550-1,600 จุด แต่หากมองในกรอบกว้างจะอยู่ที่ 1,530-1,620 จุด และคิดว่าจะไม่ร่วงแรงไปถึง 1,400 จุด หรือขึ้นแรงจนแตะระดับ 1,700 จุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image