บิ๊ก”ไทยแอร์เอเชีย” สวนกลับรัฐบาลขึ้นภาษีน้ำมัน กระตุ้นเที่ยวไทยตรงไหน โอดต้นทุนพุ่ง 1.5พันล้าน

จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง เสนอให้ปรับขึ้นภาษีสรรพาสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินเป็น 4 บาทต่อลิตร จากเดิมเก็บที่ 20 สตางค์ต่อลิตร ส่วนน้ำมันหล่อลื่นถูกจัดเก็บลิตรละ 5 บาท จากเดิมไม่มีเก็บ ซึ่งการจัดเก็บภาษีน้ำมันทั้ง 2 ชนิด ส่งผลให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มปีละประมาณ 8 พันล้าน มีผลตั้งแต่วันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา และส่งผลให้สายกาบินต่างๆ ประกาศ บวกเพิ่มค่าภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงในอัตรา 150 บาทต่อรายต่อเที่ยวบิน สำหรับเส้นทางบินภายในประเทศ โดยสายการบินไทยแอร์มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนสายการบินนกแอร์ และไทย ไลอ้อนแอร์ มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ขณะที่สายการบินบางกอก แอร์เวย์ส ปรับเพิ่มขึ้น 200 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 นั้น
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานไทย แอร์เอเชีย ดอนเมือง นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ตามมติดังกล่าว ทำให้สายการบินมีต้นทุนเพิ่มขึ้นโดยภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินภายในประเทศ จากเดิมรัฐบาลจัดเก็บภาษีในอัตรา 1% ของราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น ซึ่งปีที่แล้วอยู่ที่ 16 บาทต่อลิตร หรือเก็บที่ 20 สตางค์ต่อลิตร เปลี่ยนมาเก็บในอัตรา 23% ของราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น ทำให้ราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นปรับสูงขึ้นไปอยู่ที่ 20 บาทต่อลิตร หรือเก็บที่ 4.89 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ไทยแอร์เอเชียมีต้นทุนน้ำมันปีนี้ เพิ่มขึ้นอีก 1,500 ล้านบาท และทำให้สัดส่วนต้นทุนน้ำมันปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 35% จากสัดส่วนเดิม 33% ทำให้สายการบินมีความจำเป็นต้องประกาศปรับราคาบัตรโดยสาร เส้นทางบินในประเทศ ซึ่งรวมอยู่ในค่าโดยสารที่แสดงหน้าเว็บไซต์แล้ว ในอัตรา 150 บาทต่อคนต่อเที่ยวบิน

“ปัจจุบันราคาน้ำมันอากาศยานโลกอยู่ที่ 65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หากปรับขึ้นไม่เกิน 3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ก็คงไม่มีการปรับราคาตั๋วเพิ่มขึ้นอีก แต่หากราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่านี้ ก็ยอมรับว่ามีความจำเป็นว่าอาจจะต้องปรับเพิ่มขึ้นอีก ส่วนสาเหตุที่กำหนด 150 บาทต่อคนต่อเที่ยวบินนั้น คำนวณจากประมาณการจำนวนผู้โดยสารภายในประเทศทั้งปี 2560 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 12 ล้านคน ซึ่งสายการบินไม่มีกำไรจากการปรับขึ้นจากตรงนี้ เพราะเป็นการสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง แต่ยอมรับว่าการปรับขึ้นค่าโดยสารภายในประเทศ จากผลพวงทางภาษี จะทำให้ตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ มีราคาพอๆ กับราคาตั๋วเครื่องบินเดินทางไปกลุ่มประเทศกัมพูชา สปป.ลาว พม่า เวียดนาม หรือซีแอลเอ็มวี แล้วที่นี้ คิดว่านักท่องเที่ยวตลาดคนไทยจะไปเที่ยวไหนมากกว่ากัน เพราะจริงๆ แล้ว ปรับเพิ่มขึ้น 10-20 บาท ก็มีผลต่อราคาตั๋ว และการท่องเที่ยวในประเทศโดยตรงแล้ว แต่นี่ขึ้นมา 150 บาท ถือว่าสวนทางกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย เพราะถ้าเทียบราคากันแล้ว คงทำให้คนลังเลว่าจะเที่ยวไหนดี ตัดสินใจไปเที่ยวต่างประเทศได้ง่ายมากขึ้น”นายธรรศพลฐ์กล่าว

นายธรรศพลฐ์ กล่าวต่อว่าคาดว่าต้องรออีก 2 สัปดาห์ ถึงจะเห็นแนวโน้มของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปรับเพิ่มค่าภาษีสรรพสามิตน้ำมัน และจะเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้นในช่วงการเดินทางท่องเที่ยวชองคนไทยในเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ แนวทางที่สายการบินทำได้ คือ ต้องปรับเพิ่มความถี่ในการออกโปรโมชั่นขึ้นเป็นทวีคูณ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นผู้โดยสาร โดยจากปัจจุบันเฉลี่ยมีโปรโมชั่นสัปดาห์ละครั้ง ก็อาจจะต้องจัดโปรโมชั่นเฉลี่ย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ ต้องปรับแผนเตรียมประเมินสถานการณ์เป็นรายไตรมาส ตามสถานการณ์ราคาน้ำมัน โดยเฉพาะกระแสการเดินทางในช่วงมีนาคม-เมษายนนี้ ซึ่งตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ สำหรับการปรับขึ้นภาษีน้ำมัน กับประเด็นเรื่องการแข่งขันทางธุรกิจนั้น มองว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะทุกสายการบินต้องปรับขึ้นเหมือนกันหมด เพียงแต่การทำโปรโมชั่นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบิน และประชาชนภายในประเทศที่เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศอาจจะได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ และยอมรับว่า ปัจจุบันมีเพียงสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส และสายการบินไทย แอร์เอเชีย ที่ผลประกอบการมีกำไร แต่ทุกสายการบินต่างต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วยกันทั้งสิ้น

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวยอมรับว่า ผลจากมาตรการดังกล่าวมีผลต่อการท่องเที่ยวในประเทศ แต่ในแง่การแข่งขันทางธุรกิจสายการบิน เห็นว่าไม่มีใครเสียเปรียบ เพราะถูกปรับขึ้นเป็นหน้ากระดาน อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจภาพรวมด้วย เพราะรัฐบาลไม่ได้ปรับขึ้นภาษีนี้มานานแล้ว อาจจะให้มีผลกระทบบ้างในช่วงนี้ แต่เมื่อปรับขึ้นแล้ว ก็ต้องหาทางแก้ไข และช่วยเหลือกันต่อไป อย่างไรก็ตาม ถ้าคิดแง่มุม ทางรัฐบาลก็มีรายได้จากการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น แม้ทางภาคการท่องเที่ยวอาจจะสูญเสียรายได้ภายในประเทศไปบ้าง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image