เดินทางสงกรานต์ ภาพรวมขนส่งสาธารณะ 5 วัน พุ่ง 12.38 ล้านคน/เที่ยว คาดขากลับวันนี้หนาแน่นต่อเนื่อง 

‘สุริยะ’ เผยการเดินทางสงกรานต์ 2567 ภาพรวมขนส่งสาธารณะรวม 5 วัน ยอดประชาชนเดินทางพุ่งแตะ 12.38 ล้านคน/เที่ยว ส่วนยอดอุบัติเหตุวานนี้ (14 เม.ย.67) พบลดลง 16.66%-บาดเจ็บลดลง 11.35% คาดปริมาณจราจรขากลับวันนี้หนาแน่นขึ้นต่อเนื่อง 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงภาพรวมเทศกาลสงกรานต์ 2567 ประจำวันที่ 15 เมษายน 2567 พบว่า ภาพรวมการเดินทางสะสม 5 วัน (11-15 เมษายน 2567) มีปริมาณการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศและระหว่างประเทศ สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ โดยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ระดับ 12,831,026 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 โดยระบบการขนส่งสาธารณะภายในประเทศ ระบบรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 44.95%

สำหรับระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศที่มีผู้ใช้สูงสุดในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ ภาคกลาง : ทางอากาศ (ขาออก) 209,397 คน-เที่ยว ภาคใต้ : ทางถนน 146,783 คน-เที่ยว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) : ทางถนน 163,078 คน-เที่ยว ภาคเหนือ : ทางถนน 85,675 คน-เที่ยว และภาคตะวันออก : ทางถนน 72,007 คน-เที่ยว ขณะที่การจราจรเข้า-ออก กรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 10 เส้นทาง มีปริมาณ 4,861,907 คัน เพิ่มขึ้น 0.78% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านการเดินทางภายในกรุงเทพฯ บนทางด่วนมีปริมาณ 6,989,707 คัน ลดลง 3.14%

Advertisement

นายสุริยะกล่าวต่อว่า ในส่วนของการเกิดอุบัติเหตุ ประจำวันที่ 15 เมษายน 2567 พบว่า เกิดอุบัติเหตุ จำนวนรวม 165 ครั้ง ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.69% และลดลง 16.66% จากเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 โดยมีจำนวนผู้บาดเจ็บรวม 203 ราย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.88% และลดลง 11.35% จากเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตรวม 20 ราย ลดลง 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 31.03% จากวันที่ 14 เมษายน 2567 ซึ่งโดยภาพรวมเทียบวันต่อวันการสูญเสียยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องจากที่ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อต้องการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยของประชาชนถึงที่สุด รวมถึงมุ่งหวังให้การเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และการเสียชีวิตลดลง

Advertisement

โดยสาเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากบนถนน โดยยานพาหนะหากเรียงตามลำดับ ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ อันดับ 1.ประเภทรถจักรยานยนต์ อันดับ 2.รถปิกอัพบรรทุก 4 ล้อ อันดับ 3.รถยนต์นั่งส่วนบุคคล อันดับ 4.รถบรรทุกพ่วง (มากกว่า 10 ล้อ) อันดับ 5.รถบรรทุก 6 ล้อ 6.รถสามล้อเครื่อง โดยสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุเกิดจากขับขี่ยานพาหนะโดยไม่เคารพกฎหมายจราจรและขับขี่เร็วเกินกฎหมายกำหนด โดยเฉพาะบริเวณทางตรง ไม่มีความลาดชัน ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐ วอนขอความร่วมมือกับประชาชนทุกภาคส่วน ให้ขับขี่ยานพาหนะอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและเคารพกฎหมายจราจรเป็นที่ตั้ง หากพบผู้กระทำผิด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินผู้กระทำผิดการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดทันที ขณะที่ภาพรวมสะสม 5 วัน (11-15 เมษายน 2567) พบว่า เกิดอุบัติเหตุ รวม 1,102 ครั้ง เพิ่มขึ้น 3% โดยมีผู้บาดเจ็บรวม 1,221 ราย เพิ่มขึ้น 4% ผู้เสียชีวิต 146 ราย ลดลง 2% โครงข่ายทางน้ำ และทางอากาศไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ

ในส่วนการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจ จุดพักรถ และจุดจอด 221 แห่ง มีการตรวจรถ 70,671 คัน พบบกพร่อง 8 คัน และสั่งเปลี่ยนรถ 8 คัน ตรวจผู้ปฏิบัติงาน 70,671 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด สำหรับรถไฟ มีการตรวจความพร้อมผู้ปฏิบัติงาน 401 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด และการตรวจความพร้อมท่าเรือ/แพ 168 แห่ง ตรวจเรือ 4,501 ลำ พบข้อบกพร่อง 12 ลำ และได้สั่งห้ามพร้อมทั้งเปรียบเทียบปรับทั้ง 12 ลำ และตรวจผู้ปฏิบัติงาน 6,497 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด

นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางราง (ขร.) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11-14 เมษายน 2567 มีประชาชนใช้บริการระบบรางรวม 4,720,371 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงสี่วันเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 830,981 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 21.37% (11-14 เมษายน 2566 จำนวน 3,889,390 คน-เที่ยว) สำหรับการเดินทางทางอากาศ มีการบริหารจัดการเที่ยวบินและกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าและขาออกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงดูแลความปลอดภัยภายในท่าอากาศยานให้ผู้โดยสาร ได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

ทั้งนี้ ท่าอากาศยานมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเวรตรวจติดตามผ่านกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง ด้านกรมเจ้าท่า (จท.) โดยศูนย์ปลอดภัยทางน้ำ ได้รายงานสถานการณ์ทางน้ำ เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2567 ได้แก่ บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาสามารถระบายผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือ เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว

นายสุริยะกล่าวอีกว่า สำหรับการเดินทางของประชาชนที่ทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อวาน (15 เมษายน 2567) และคาดการณ์ปริมาณจราจรที่หนาแน่นขึ้นอีกในวันนี้ ซึ่งตนได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ คุมเข้มมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง และเตรียมพร้อมระบบขนส่งสาธารณะ ต้องมีเพียงพอกับปริมาณผู้โดยสาร ต้องไม่มีการเอาเปรียบคิดค่าโดยสารเกินจริงอย่างเด็ดขาด และมีการบริหารจัดการเชื่อมต่อการเดินทางจากสถานีขนส่ง รถโดยสารสาธารณะ รถไฟ รถไฟฟ้า เรือโดยสาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านถนนให้สำรวจไฟฟ้าแสงสว่าง และไฟสัญญาณจราจรให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดให้บริการประชาชนตลอดเส้นทางเพื่อพร้อมอำนวยความสะดวกการเดินทางในช่วงขากลับให้เกิดความคล่องตัว ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทาง และช่องทางบริการให้ข้อมูลข่าวสารและรับเรื่องร้องเรียน และจุดบริการประชาชนผ่านศูนย์ปลอดภัยคมนาคม สายด่วน 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ร่วมดูแลกันอำนวยความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทาง ให้ประชาชนได้เดินทางถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพทั้งขาไปและขากลับตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปี 2567 นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image