พณ.แจงแผนรับมือ ดีเซลขึ้นราคา หลังผู้ส่งออกผวาตะวันออกตรึงเครียด ป่วนขนส่งรอบใหม่
เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ มีการติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานและดีเซลต่อเนื่อง ซึ่งถึงขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบอย่างไรต่อราคาสินค้า ซึ่งหาราคาดีเซลปรับขึ้น ย่อมกระทบต่อต้นทุนด้านขนส่งและธุรกิจด้านบริการขนส่ง ซึ่งค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันดีเซลและพลังงานจะเป็นสัดส่วน 40% ของต้นทุนรวม แต่ในส่วนของภาคการผลิตสินค้าจะไม่มีผลกระทบแต่อย่างไร โดยกรมฯได้หารือและขอความร่วมมือผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและค้าปลีก ไม่อ้างหรือฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าและขอให้ตรึงราคาจำหน่ายให้นานที่สุด
“กรมมีการติดตามทุกปัจจัยที่มีผลต่อโครงสร้างต้นทุนและราคาสินค้า ติดตามอย่างใกล้ชิด หากมีการยื่นมาให้พิจารณา ก็จะพิจารณาเป็นรายๆและเป็นกรณีไป ถึงตอนนี้ยังไม่มีการยื่นขอปรับอะไร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ก็มีการเตรียมพร้อมเรื่องรับมือทุกปัญหาต่อเนื่อง”
นายวัฒนศักดิ์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ราคาผักสดในขณะนี้ที่มีราคาสูง มาจาก 2 สาเหตุหลัก คือ อากาศร้อนและแล้ง กระทบต่อปริมาณผลผลิตและความเสียหายจากอากาศร้อนช่วงขนส่ง และ ระบบขนส่งมีการหยุดยาวช่วงสงกรานต์ ซึ่งหลังสงกรานต์ภายในสัปดาห์หน้า เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และราคาสินค้าอ่อนตัวลง ซึ่งราคาผักสดจะทรงตัวสูงในช่วงระยะสั้นๆเท่านั้น เมื่ออากาศเย็นลงและการขนส่งเข้าระบบปกติ ปัญหาจะคลี่คลายลง ทั้งนี้ ผักสดที่มีการขยับราคาในช่วงนี้ อาทิ ผักชี อยู่ที่กิโลกรัม(กก.)ละ 142 บาท ต้นหอม กก.ละ 89 บาท คะน้า ถั่วผักยาว กะหล่ำปลี กวางตุ้ง ผักบุ้งจีน ผักกาดขาว
ส่วนราคาไข่ไก่ขึ้นจากแบกรับต้นทุนที่สูงกว่าราคาขาย ส่วนราคาเนื้อหมูเฉลี่ย 129 บาท และกำลังลดผลผลิตส่วนเกินวันละ 6 พัน- 1 หมื่นตัวออกจากตลาด เพราะพยุงราคา โดยครม.เห็นชอบงบชดเชยลดลูกพันธ์สุกร 4.5 แสนตัว วงเงิน 1180 ล้านบาท ช่วง 3 เดือน(พ.ค.-ก.ค.) เพื่อให้ปริมาณสุกรออกสู่ตลาดใกล้เคียงความต้องการวันละ 5 หมื่นตัว
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมมีการติดตามสถานการณ์ความตรึงเครียดในตะวันออกกลาง และได้ประชุมหารือผู้ส่งออกและบริษัทขนส่งทางเรือต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมกรณีขนส่งและปัญหาค่าระวางเรือ โดยตอนนี้ยังรับรายงานว่าการค้ายังปกติ ซึ่งเชื่อว่าภาคเอกชนมีแผนรับมือและมีประสบการณ์มาจากช่วงโควิดและสงครามที่ยืดเยื้อมาเป็นปีๆแล้ว
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า หลังการโจมตีของอิสราแอลกับอิหร่าน และความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ทำให้บริษัทเดินเรือหยุดประกาศราคาบริการค่าระหว่างเรือ ในเส้นทางไปยุโรปและตะวันออกกลาง ทำให้เริ่มปั่นป่วน โดยเชื่อว่าจะมีการปรับค่าระวางเรือของบริษัทขนส่งเพื่อลดภาระต้นทุนความเสี่ยง จากนี้อย่างต่ำ 20% แต่เชื่อว่าจะยังไม่มีปรับราคาสูงเท่าช่วงโควิดระบาด แต่ก็เป็นปัญหาต่อต้นทุนและราคาส่งออก
” การค้าการส่งออกจากนี้จะเหนื่อย และยากขึ้น เจ้าของธุรกิจต้องปวดหัวกันอีกครั้ง แต่เราก็มีประสบการณ์จากช่วงโควิด ผ่านมาได้ ดังนั้นผู้ส่งออกก็รู้ว่าจะปรับตัวอย่างไร เพียงแต่วิตกเรื่องต้นทุนขนส่งและการส่งมอบที่อาจปั่นป่วนจากนี้ โดยเฉพาะการส่งออกข้าวและสินค้าอื่นไปตะวันออกกลางและไปยุโรป อาจแบกรัยภาระสูงอีกครั้ง ” นายชูเกียรติ กล่าว
