“เงินบาทอ่อนค่าทะลุแนว 35.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท้ายสัปดาห์ ขณะที่ หุ้นไทยฟื้นตัวจากกระแสเงินทุนไหลเข้า และการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน”
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทอ่อนค่าทะลุแนว 35.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ ช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากภาพรวมการเคลื่อนไหวของเงินบาทเป็นไปในกรอบแคบๆ ในช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ ตามคำสั่งซื้อเงินดอลลาร์ฯ ในช่วงแรก สลับกับปัจจัยหนุนเงินบาทจากสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติและการทยอยปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันและสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงทะลุระดับ 35.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ ตามแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในตลาดพันธบัตร การอ่อนค่าของสกุลเงินภูมิภาค และการปรับตัวลงของราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ
สำหรับในวันศุกร์ (19 ก.พ.) เงินบาทอยู่ที่ 35.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 35.57 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (12 ก.พ.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (23-26 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.55-35.85 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาข้อมูลการส่งออกของไทยในเดือนม.ค. และรายงานเบื้องต้นของดัชนี PMI ภาคการผลิต/บริการเดือนก.พ. ของหลายประเทศในยุโรป ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการ (ขั้นต้น) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่/บ้านมือสอง รายได้ส่วนบุคคลเดือนม.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค. และจีดีพีประจำไตรมาส 4/58 (ประกาศรอบ 2) นอกจากนี้ ตลาดอาจรอจับสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET ปรับฟื้นตัวจากกระแสเงินทุนไหลเข้า และการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,320.19 จุด เพิ่มขึ้น 3.44% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 25.44% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 42,323.16 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 498.21จุด ลดลง 0.63% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ หลังนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลต่อประเด็นธนาคารในยุโรปลงบางส่วน รวมทั้ง ตลาดยังได้รับอานิสงส์จากแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการ และรายงานข้อมูลจีดีพีของไทยที่ออกมาค่อนข้างดี ก่อนที่ดัชนีจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันพุธจากแรงขายทำไร อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นต่อในช่วงปลายสัปดาห์ โดยราคาน้ำมันปรับที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมทั้ง มีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาอีกครั้ง
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (23-26 ก.พ.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีแนวรับที่ 1,307 และ1,285 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,335 และ 1,350 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ สถานการณ์การเคลื่อนย้ายเงินทุนในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งความเห็นของคณะกรรมการเฟด สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนี Markit PMI เครื่องชี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน จีดีพีไตรมาส 4/58 (ประกาศรอบ 2) และความเชื่อมั่นผู้บริโภค สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การรายงานจีดีพีไตรมาส 4/58 ของเยอรมนี และการรายงานข้อมูลราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีน