ภัยแล้งทำไม้ผลไซซ์เล็กลง-รูปทรงบิดเบี้ยว คน.ยันยังไม่กระทบราคา มั่นใจเพียงพอความต้องการ

คน.เช็กผลผลิตผลไม้ ภัยแล้งทำไซซ์เล็กลง-รูปทรงบิดเบี้ยว แต่ยังไม่กระทบราคา มั่นใจเพียงพอความต้องการ

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสถานการณ์ผลไม้ของไทย ในภาวะอากาศร้อนแรง ว่า ในส่วนของพื้นที่เพาะปลูกภาคตะวันออก ที่ส่วนใหญ่เป็นทุเรียน และมังคุด จากที่ได้ติดตามสถานการณ์และสอบถามกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการ สำหรับผลผลิตรอบเพาะปลูกแรกๆ ที่ออกมาแล้ว 60-70% แม้บางส่วนจะมีผลขนาดเล็กลงบ้าง แต่ด้วยรสชาติยังดี ทำให้ความต้องการซื้อในต่างประเทศยังมีต่อเนื่อง ราคาจึงอยู่ในระดับสูง อย่างทุเรียน เกรด A-B ราคายัง 150-155 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เกรด C ราคา 110-115 บาท/กก. เกรด D ราคา 90-100 บาท ส่วนมังคุดเกรดดี 70-90 บาท/กก. เกรดเล็กลง 45-50 บาท/กก. ตกเกรดหรือลูกไม่สวยแต่รสชาติยังดี ขายได้ 30-40 บาท ถือว่าราคายังดี

นายกรนิจกล่าวว่า ส่วนขณะนี้ที่หลายพื้นที่เผชิญภัยแล้งรุนแรงกว่าเดิม จะมีผลกระทบต่อผลผลิตและรูปโฉมภายนอกอาจไม่สวย เบี้ยวบ้าง แต่รสชาติยังดี ก็จะยังเป็นที่ต้องการ และจากการสอบถามผู้ประกอบการยืนยันว่าผลผลิตโดยรวม แม้ภัยแล้งต้นขาดน้ำนาน จะเสียหายได้มากกว่ารุ่นแรกที่ออกตลาด แต่ชาวสวนก็เตรียมพร้อมในการจัดหาน้ำเพื่อหล่อเลี้ยง ด้วยผลไม้ติดดอกแล้ว มีโอกาสเติบโตให้ผลผลิตแล้ว และราคาผลไม้ที่ยังดีอยู่ ชาวสวนชาวไร่ยอมที่จะจ่ายซื้อน้ำ แม้ผลผลิตอาจเสียหายจากแล้งหนัก แต่ผู้ประกอบการมองว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อเพื่อส่งออกหรือคนในประเทศหาทานไม่ได้

“ผลผลิตอาจลดลง แต่ไม่ลุกลามไปทั่วประเทศ เมื่อผลผลิตไม่ได้ขาดหรือรูปลักษณ์ภายนอกอาจไม่ได้สวยนัก จะเป็นนัยสำคัญผลผลิตที่หายไปและกดราคา ก็หวังว่าแล้งจะไม่รุนแรงกว่าวันนี้ ตรงกันข้าม หากในช่วงตั้งแต่ 10-15 พฤษภาคม เกิดฝนชุก ก็จะเร่งเก็บเกี่ยวกัน ออกมาพร้อมกัน เกิดผลผลิตล้นและราคาตกลงแรงอีกครั้ง ซึ่งกรมฯติดตามใกล้ชิด หากผลผลิตออกมาพร้อมกันจะเข้าไปดูดซับส่วนเกินเพื่อประคองราคา เราติดตามและเฝ้าระวังตลอด ซึ่งในเดือนพฤษภาคมข้อดีคือเรื่องเปิดเทอม จะทำให้ความต้องการกลับมาอีกครั้ง อย่างไรก็ดี แม้ผลไม้ราคาอาจไม่ดีนัก แต่รสชาติดี อย่างไรก็เป็นที่ต้องการ” นายกรนิจกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image