ธุรกิจอาบอบนวด จากรุ่งโรจน์ สู่ร่วงโรย ทยอยปิดตัว

ธุรกิจอาบอบนวด จากรุ่งโรจน์ สู่ร่วงโรย ทยอยปิดตัว

การปิดฉาก ประกาศขายที่ดิน 645 ล้านบาท ของอาบอบนวดชื่อดัง “เอมมานูเอล” ย่านรัชดาฯ รายล่าสุด น่าจะเป็นการบ่งบอกถึงสภาพธุรกิจนี้ได้เป็นอย่างดี ในวันนี้ยัง “เจิดจรัส” หรือ “อัสดง

ถามว่า”ธุรกิจอาบอบนวด” เป็นธุรกิจที่หมดอนาคตแล้วจริงหรือไม่ “โสภณ พรโชคชัย” ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) กล่าวว่าธุรกิจอาบอบนวดมีมากที่สุดในปี 2556 ถึง 527 แห่งในเขตกรุงเทพฯเพียงอย่างเดียว และในปี 2547 มีอยู่ 390 แห่ง แสดงว่ามีการเจริญเติบโตสูงมาก แต่ทั้งนี้สถานอาบอบนวดเหล่านี้ ส่วนหนึ่งรวมไปถึงสปาและอื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่และที่เกี่ยวข้องด้วย จึงทำให้ตัวเลขดูสูงมาก

โสภณ“กล่าวว่า อย่างไรก็ตามล่าสุดปี 2567 พบว่าในกรุงเทพมหานครมี “อาบอบนวด” แท้ ๆ อยู่เพียง 71 แห่งโดยเขตที่มีมากที่สุด คือ เขตดินแดง 19 แห่ง รองลงมาเขตห้วยขวาง 18 แห่ง เขตราชเทวีมี 9 แห่ง และเขตบางพลัดมี 4 แห่ง นอกนั้นกระจัดกระจายทั่วไป เช่น คลองหกวา บางกะปิ บางเขน บางคอแหลม ปทุมวัน พญาไท ภาษีเจริญ ยานนาวา วังทองหลาง วัฒนา สนวนหลวง วัฒนา สะพานสูงและสัมพันธวงศ์ โดยแบ่งเป็นเขตละ 1-2 แห่งเท่านั้น

Advertisement

ส่วนในจังหวัดภูมิภาค “โสภณ” กล่าวว่า มีอยู่ 29 แห่ง ประกอบด้วย ชลบุรีมีมากที่สุด 6 แห่ง นครราชสีมา 4 แห่ง นอกนั้นมีเพียง 1-2 แห่งต่อจังหวัด ได้แก่ กระบี่ ขอนแก่น จันทบุรี เชียงใหม่ นครปฐม นนทบุรี ภูเก็ต ระยอง สมุทรปราการ สระบุรี สุโขทัย สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อุดรธานี และอุบลราชธานี

โดยอาบอบนวดที่มีทุนจดทะเบียนสูง ๆ มี 14 อันดับแรก ได้แก่

  • กรุงเทพมหานคร เขตห้วยขวาง ยูโทเปีย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ 300,000,000 บาท
  • กรุงเทพมหานคร เขตราชเทวี พลาซ่า 88 270,000,000 บาท
  • กรุงเทพมหานคร เขตห้วยขวาง ลา เบลล์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ 150,000,000 บาท
  • นนทบุรี เมืองนนทบุรี เวลธี พิลล่าร์ 100,000,000 บาท
  • กรุงเทพมหานคร เขตห้วยขวาง ทวีชัยสมบุญ 80,000,000 บาท
  • กรุงเทพมหานคร เขตบางพลัด เจ้าพระยาพาเลซ 64,000,000 บาท
  • กรุงเทพมหานคร เขตภาษีเจริญ เมลโรส พลาซ่า 36,000,000 บาท
  • กรุงเทพมหานคร เขตดินแดง เดอะ ลอร์ด สปา 35,000,000 บาท
  • จันทบุรี เมืองจันทบุรี บูรพา บารมี 30,000,000 บาท
  • กรุงเทพมหานคร เขตบางพลัด พี.79 15,000,000 บาท
  • กรุงเทพมหานคร เขตบางเขน โพธิ์วัชร 12,500,000 บาท
  • กรุงเทพมหานคร เขตพญาไท นทีทิพย์ 12,000,000 บาท
  • กรุงเทพมหานคร เขตดินแดง พี.พี.ที.เอส.คอนสตรัคชั่น 11,000,000 บาท
  • ชลบุรี บางละมุง เย็นสบาย 10,000,000 บาท

โสภณ” คำนวณว่า ในสถานประกอบการอาบอบนวด 527 แห่งในปี 2556 แต่ละแห่งอาจมีผู้ให้บริการประมาณ 50 คน หรือเป็นผู้ให้บริการรวมประมาณ 50,000 คน หากสมมุติให้รายได้จากการนวดเป็นเงินคนละ 1,500 บาท โดยคนหนึ่งทำงานประมาณ 3 ครั้งต่อวัน จะเป็นเงินประมาณ 82,125 ล้านบาทต่อปี

Advertisement

“แต่สำหรับผลการศึกษาเมื่อปี 2550 อาบอบนวดมีมูลค่าอยู่ที่ 23,803 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากถือตามตัวเลขประมาณการล่าสุดหรือใน 10 ปีต่อมา (ปี 2560) โดยทั่วไปเจ้าของสถานที่น่าจะได้ประมาณ 50% ของสถานที่หรือราว 41,062.5 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในเดือนธันวาคม 2559 จัดเก็บภาษีสถานอาบอบนวดได้ทั่วประเทศประมาณ 10.22 ล้านบาท หากประมาณการทั้งปีคงเป็นเงินเพียง 122.64 ล้านบาทเท่านั้นเอง” โสภณกล่าว

โสภณ” ยังกล่าวว่า เมื่อพิจารณาในแง่การเงิน ในปัจจุบันโรงแรมระดับ 3 ดาวทั่วไปอาจมีอัตราการเข้าพัก 60% หากมีห้องพัก 100 ห้อง และมีรายได้สุทธิอยู่ที่ 1,000 บาท จะเป็นเงินเดือนละ 1,800,000 บาทต่อเดือน ขณะที่หากเป็นในกรณีอาบอบนวด 100 ห้อง หากได้ค่าห้องสุทธิเพียง 600 บาทต่อห้อง (ตามภาวะตลาดในปัจจุบัน) แต่มีคนมาใช้บริการวันละ 1 รอบ จะได้เงิน 1,800,000 บาทต่อเดือนเช่นกัน แต่รายได้ทางอื่น เช่น อาหารเครื่องดื่ม น่าจะได้มากกว่าโรงแรมทั่วไป

“ดังนั้นในชั้นนี้โอกาสที่อาบอบนวดจะล้มหายตายจากไป จึงยังมาไม่ถึง หากยิ่งมีการผสานระหว่างการเป็นโรงแรมกับการเป็นโรงนวด การเป็นร้าน Spa (ชั้นค่อนข้างดี) ก็ยิ่งจะมีโอกาสมากขึ้นในการดำรงอยู่”โสภณกล่าว

อย่างไรก็ตาม”โสภณ“มองว่าหากราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้นเพราะตั้งอยู่ในทำเลดี ก็น่าจะขายกิจการทิ้งได้ เช่น ในกรณีโรงนวดหรือโรงแรมที่สร้างรายได้สุทธิได้เดือนละ 1,800,000 บาท หรือปีละ 21,600,000 บาท จะมีมูลค่ารวม 270 ล้านบาท (ณ อัตราผลตอบแทนที่ 8%) หากที่ดินที่ตั้งโรงการมีขนาด 1.5 ไร่โดยประมาณ เท่ากับเป็นที่ดินในราคา 450,000 บาทต่อตารางวา (ตัดทิ้งค่าสิ่งก่อสร้างและอื่นๆ) ดังนั้นหากราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านบาทต่อตารางวา การขายกิจการทิ้งจึงจะดีกว่า ไม่ต้องยุ่งยากในการทำธุรกิจนี้ หรืออาจนำเงินไปทำธุรกิจอื่นก็ได้

ดังนั้น ธุรกิจอาบอบนวด จึงยังไม่ตายไปเสียหมด ยังมีอุปสงค์และอุปทานในสัดส่วนที่พอ ๆ กันอยู่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image