แก้ปัญหา วิน โพรเสส กรอ.ของบ 68 เคลียร์กากทั้งหมดโดยด่วน จากนั้นบี้เจ้าของชดใช้
นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ร่วมเป็นวิทยากรเสวนา “ทางออกกรณีมลพิษหนองพะวา สะท้อนปัญหากากอุตสาหกรรมอันตรายของไทย” จัดโดยมูลนิธิบูรณะนิเวศ และเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษอุตสาหกรรม หัวข้อ “เบื้องหลังและเบื้องหน้ากรณีการก่อมลพิษ โดยบริษัท วินโพรเสสฯ และบริษัท เอกอุทัยฯ และการดำเนินการที่ผ่านมา”
การสัมมนามีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอสถานการณ์และความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อประเทศและประชาชนในพื้นที่ต่างๆ การเชื่อมโยงภายในระบบการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมอันตรายที่มีช่องโหว่ใหญ่ของการกำกับดูแล และแสวงหาแนวทางแก้ไขเยียวยาจากปัญหาสะสมกากอันตรายและพื้นที่ปนเปื้อนในพื้นที่บ้านหนองพะวา ตลอดจนพื้นที่ที่มีคำสั่งศาลให้ดำเนินการฟื้นฟู เพื่อสร้างต้นแบบของการจัดการปัญหาจากกากอันตรายและพื้นที่ปนเปื้อนมลพิษ
การเสวนาครั้งนี้ได้เล่าลำดับขั้นตอนการดำเนินงานที่ผ่านมาในกรณีบริษัท วิน โพรเสสฯ บ้านหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง โดยสรุปดังนี้
1.กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) พบการกระทำความผิดของบริษัทฯ ในเรื่องการครอบครองวัตถุอันตรายและลักลอบฝังลงหลุมใต้ดิน เมื่อปี 2556 กระทั่งมีการดำเนินคดีอาญา ซึ่งศาลมีคำพิพากษาออกมาในปี 2564 ลงโทษจำคุกจำเลย แต่ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี พร้อมกันนั้น ศาลได้ตัดสินให้จำเลยเป็นคนจัดการนำของเสียในโรงงานที่บางบุตรออกไปกำจัด โดยให้ กรอ. และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) กำกับดูแล
2.หลังคำพิพากษา การจัดการของเสียไม่เกิดขึ้น จนกระทั่งเดือนตุลาคม 2565 เมื่อนายจุลพงษ์ฯ เข้ารับตำแหน่งอธิบดี กรอ. จึงเกิดกรณีที่วิน โพรเสสฯ ทำสัญญาจ้างบริษัท เอส. เค. อินเตอร์เคมิคอล จำกัด เข้ามาบำบัดน้ำเสีย แต่การที่บริษัทเป็นฝ่ายดำเนินการเรื่องการจัดการกากของเสียเองตามคำสั่งศาลนั้น ทำให้กำกับดูแลแทบเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากทางบริษัทสามารถเข้าออกและทำอะไรในพื้นที่ก็ได้
3.เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น สถานการณ์ปัญหาได้เปลี่ยนแปลงไป การแก้ปัญหาจึงต้องตั้งต้นใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะต้องจัดงบประมาณในปีงบประมาณ 2568 และงบกลาง มาดำเนินการ แล้วเรียกร้องจากบริษัทในภายหลัง