ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้อ่อนลง 36.66 บาทต่อดอลลาร์ ทองร่วง 400 บาท

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.66 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” ขณะที่ทอง ปรับครั้งแรก ลดลง 400 บาท

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.66 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.54 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.55-36.80 บาท/ดอลลาร์

นายพูนกล่าวว่า โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา ค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 36.47-36.66 บาทต่อดอลลาร์) ตามที่เราได้ประเมินความเสี่ยงเอาไว้ ว่า เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน 36.65 บาทต่อดอลลาร์ หากรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ รวมถึงยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ออกมาดีกว่าคาดจริง

โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ พลิกกลับมาปรับตัวขึ้นในเดือนพฤษภาคม สู่ระดับ 50.9 จุด และ 54.8 จุด ตามลำดับ ส่วนยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ก็ลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 2.15 แสนราย โดยภาพดังกล่าวได้ทำให้ผู้เล่นในตลาดกังวลว่า เฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานขึ้น ส่งผลให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนราคาทองคำก็ปรับตัวลดลงหนักกว่า -40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กดดันให้เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว

Advertisement

นายพูนกล่าวว่า สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะยังคงรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจ อาทิ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) ในเดือนเมษายน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งผู้เล่นในตลาดจะให้ความสนใจกับ รายงานคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะสั้นและระยะยาวพอสมควร นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดในระยะถัดไป

ส่วนในฝั่งอังกฤษ รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ในเดือนเมษายน จะเป็นข้อมูลที่ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ซึ่งล่าสุดผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า BOE อาจเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสที่ 3

นายพูนกล่าวว่า สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า การอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมา ยังมีโอกาสที่จะดำเนินต่อไปได้ โดยเฉพาะ หลังเงินบาทได้อ่อนค่าลงทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน แถวโซน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งจากข้อมูลสถิติย้อนหลัง พบว่า หากเงินบาทยังอยู่ในการแกว่งตัวแบบ sideways ก็สามารถอ่อนค่าทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ได้ราว 20 สตางค์

Advertisement

นอกจากนี้ เงินบาทก็ยังมีปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าอยู่บ้าง ทั้งโฟลว์ธุรกรรมซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งทองคำและน้ำมันดิบ ในจังหวะย่อตัว นอกจากนี้ ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติอาจมีแนวโน้มเป็นการขายสุทธิได้ หลังบรรยากาศในตลาดพลิกกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง โดยเราประเมินว่า เงินบาทมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้านถัดไป แถว 36.75-36.80 บาทต่อดอลลาร์ได้

อนึ่ง หากเงินบาทสามารถแข็งค่าขึ้นมาได้บ้าง เรามองว่า เงินบาทก็อาจยังติดโซนแนวรับแถว 36.50 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงมุมมองของผู้เล่นในตลาดซึ่งปัจจุบันต่างก็กังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดมากขึ้น โดยเราคาดว่า อาจจะต้องรอจนถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคม หรือ ต้นเดือนมิถุนายน เพื่อให้ตลาดรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE และยอดการจ้างงานสหรัฐฯ ถึงจะเห็นการแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของเงินบาทได้อีกครั้ง แต่ต้องลุ้นให้ ข้อมูลดังกล่าวออกมาแย่กว่าคาด หรือ อัตราเงินเฟ้อ PCE ชะลอตัวลงมากขึ้นเท่านั้น

“เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวผันผวนสูง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงไปมาของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินบาท ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน”นายพูนกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนราคาทองคำ ทันทีที่เปิดตลาด เวลา 09.06 น. สมาคมค้าทองคำ ประกาศปรับลดลง 400 บาทเมื่อเทียบกับปิดตลาดวานนี้ โดยทองคำแท่ง 96.5% รับซื้อ 40,450.00 บาท ขายออก 40,550.00 บาท ส่วนทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้อ 39,719.20 บาท ขายออก 41,050.00 บาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image