‘ดุลยภาค’ ชูกลยุทธ์ ‘4 ลู่ 2 แกน’ แนะ 3 พรรคเล่นบททูต ‘ชายแดนพม่า’ หวังไทยมองทะลุขวานทอง

ดุลยภาค ชูกลยุทธ ‘4 ลู่ 2 แกน’ หวังไทยแผ่อิทธิพลคลุมพม่าแข่งจีน-รัสเซีย แนะฝ่ายขวาจัด-พ.ท.-กก. ผนึกทำงานปราบยาบ้า-หนุนซอฟต์พาเวอร์-ช่วยเหลือมนุษยธรรมอาคเนย์

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ห้องคริสตัล บ็อกซ์ ชั้น 19 เกษร เออร์เบิน รีสอร์ต อาคารเกษรทาวเวอร์ แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสหนังสือพิมพ์มติชนก้าวเข้าสู่ปีที่ 47 กองบรรณาธิการมติชน จัดเวทีมติชนฟอรั่ม ‘Thailand 2024 : Surviving Geopolitics’ เพื่อสะท้อนถึงสถานการณ์และหนทางปรับตัว ภายใต้ปัจจัย ‘ภูมิรัฐศาสตร์’ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรโลก ภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนประชาชนคนไทย ทั้งในเชิงการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิรัฐศาสตร์ในมิติต่างๆ มาให้ความเห็น ได้แก่ ศ.กิตติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ, ผศ.ดร.ธานี ชัยวัฒน์ ประธานหลักสูตรเศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ, รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายคุณากร วาณิชย์วิรุฬห์ นักวิชาการอิสระ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์โลก และภูมิรัฐศาสตร์

Advertisement

รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขึ้นบรรยายหัวข้อ “ผ่าเมียนมา ทะลุไทยและอาเซียน วิเคราะห์จุดเดือดสมรภูมิรบภูมิรัฐศาสตร์”

 

ในตอนหนึ่ง รศ.ดร.ดุลยภาค กล่าวว่า ย้อนไปเมื่อทศวรรษ 1990 กองทัพพม่าเคยเปิดปฏิบัติการทางทหารมารอบหนึ่งแล้ว เพื่อจัดการกับกับกองทัพกะเหรี่ยง KNU และเป็นการเคลื่อนทัพแบบสายลูกศรแนวยาว จากเมียวดีกวาดกำลังลงมาตีค่ายกะเหรี่ยงผาลูและเป็นชายแดนพม่า ที่มีเขตแดนทิ่มแทงยื่นลึกเข้ามาในฝั่งไทยแถวอุ้มผาง พบพระ และทำให้เขตอื่นต้องพ่ายแพ้ไป

Advertisement

“มาวันนี้กองทัพพม่าเปิดปฏิบัติการ ‘อองเซยะ’ คือ ปฏิบัติการพระเจ้าอลงพญา แล้วการเคลื่อนทัพหลายอย่างไม่ได้อยู่ในหมายในการเข้าตี หรือ ชิงเมียวดีคืนเพียงอย่างเดียว แต่กวาดเส้นทางเดินทัพมาเป็นแนวยาว มาแถวอุ้มผาง พบพระด้วย อย่างที่เป็นข่าวของการรบกันทุกวันนี้ในปัจจุบัน และมีการรบแบบจรยุทธ์เทือกเขาธงชัยตะวันตก ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนนไทยออกไปพอประมาณ สิ่งนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งผมคิดว่าเป็นจุดเดือนที่ค่อนข้างจะร้อนระอุเลยทีเดียว และคิดว่าจะต้องดำรงต่อไปด้วยพลวัตของความคิดแย้ง” รศ.ดร.ดุลยภาคระบุ

รศ.ดร.ดุลยภาคกล่าวว่า อันดับสุดท้ายคิดว่าแล้วเราในฐานะที่เป็นคนไทย เราจะสร้างกรอบการวิเคราะห์ในลักษณะใด เพื่อรักษาประโยชน์ของไทยเรา ท่ามกลางพลวัตความขัดแย้งในประเทศพม่า และประเทศไทยความจะมีวิสัยทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์หรือไม่ ซึ่งในความคิดของตนคิดว่าต้องมี แต่มีอย่างไรจะต้องขออธิบายต่อไปอีกสกัเล็กน้อย

“แผนที่แสดงคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียในการเมืองพม่า โดยเฉพาะอาณาบริเวณชายแดน เข้ามาจัดให้เข้ารูปเข้ารอยกับเขตแดนหรือภูมิประเทศออกมาว่า ตัวแสดงที่เป็นหน่วยงานด้านความมั่นคง ดูทางฝั่งพม่าจะมี กรมยุทธการพิเศษ (BSOs) ซึ่งจะควบคุมกองทัพภาคทหารบกของกองทัพพม่า 2-3 กองทัพภาคขึ้นไป เพื่อให้เกิดการบังคับบัญชาประสานการรบ

ถัดลงมาจะเป็นกองบัญชาการทัพภาค (RMCs) เช่น มะละแหม่ง ตองจี เชียงตุง หลังจากนั้นก็จะมีหน่วยรบของทหารพม่าเป็นกรมทหารราบ มีกองกำลังพิทักษ์ชายแดน กองกำลังตำรวจ ซึ่งควบคุมโดยกระทรวงมหาดไทย นี่คือตัวแสดงที่มาจ่ออาณาบริเวณชายแดไทย-พม่า” รศ.ดร.ดุลยภาคชี้

รศ.ดร.ดุลยภาคกล่าวว่า ส่วนทางด้านไทยมีกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 3 กองกำลังนเรศวร กองกำลังผาเมือง กองกำลังทหารพราน ตำรวจตระเวนชายแดน และมีค่ายศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่อยู่ภายใต้การควบคุมโดยกระทรวงมหาดไทย สิ่งนี้คือความมั่นคงของเราที่อยู่ตามแนวชายแดน

“ส่วนบริเวณคั่นกลางที่อยู่บริเวณ borderlands มักจะเต็มไปด้วยกองติดอาวุธชาติพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น UWSA RCSS KNU DKBA เรื่อยมาจนถึง PDF LDF ผมคิดว่านี่คือเฟรมเวิร์ค (Framework) สำคัญที่ทำให้เราเห็น Stakeholder ที่อยู่ใน War Scape และ Borderlands ที่อยู่ระหว่างไทยกับพม่าที่ชัดเจนขึ้น” รศ.ดร.ดุลยภาคระบุ

รศ.ดร.ดุลยภาคกล่าวว่า ภาพสถานการณ์ยุ่งเหยิงมากกว่านั้น เพราะวันนี้ประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในวงล้อมของแรงบีบคั้นในทางยุทธศาสตร์ ซึ่งมันมีบทบาทของมหาอำนาจเข้ามาเกี่ยวพันธ์ และมีสถานการณ์สงครามกลางเมืองในพม่าเป็นตัวจุดให้มีความยุ่งเหยิงมากขึ้นในการรับมือ

“แผนที่แสดงให้เราเห็นว่าบริเวณจังหวัดภาคเหนือของประเทศไทยเรากำลังเจอกับการแข่งขันของรัฐว้า มันกำลังสร้างสมกำลังพลทหารให้ชัดเจนขึ้น เรากำลังพบกับเขตปลดปล่อยประชาธิปไตยที่อยู่ในรัฐกะเหรี่ยง รัฐกะยา ที่ฝ่ายต่อต้านกุมอำนาจได้มากขึ้น แต่ทหารพม่าก็ไม่ยอม ยังเป็นเขตที่ยุ่งเหยิง เสถียรภาพยังไม่นิ่ง

ขณะเดียวกันมองไปสปป.ลาว เราเห็นอำนาจพญามังกรทับพญานาคไปเรียบร้อยแล้ว ผ่านโครงการรถไฟลาว-จีน แล้วเราก็เห็น พญาหมีขาวเข้ามาอยู่อยู่ที่เชียงขวาง สปป.ลาว เพราะที่นั่นมีการก่อสร้างสนามบินชียงขวาง แล้วกองทัพรัฐเซียเข้าไปมีบทบาทในการก่อสร้าง ซึ่งกองทัพรัสเซียหวังจะให้ตรงนี้ เป็นพื้นที่มอนิเตอร์ระบบความมั่นคงในอาคเนย์ตอนบนทั้งลุ่มน้ำโขง

“สุดท้ายหมีขาวกับพญามังกรเข้ามาแล้วที่สปป.ลาว ยังไม่นับเวียงดาราสาครและการขุดคลองในกัมพูชา ซึ่งสะท้อนอิทธิพลของจีน หรือ พญามังกรเข้าไปตรงปากอ่าวไทย ก่อนที่จะเข้ามาในไทยอีกทีหนึ่ง

ยังไม่นับการประกาศวิสัยทัศน์ใจสมุทรโลก ของอดีตประธานาธิบดี โจโก วีโดโด ของอินโดนีเซีย ที่จะได้อำนาจอินโดนีเซียให้ขึ้นมามีอำนาจ รวมถึงที่จะให้อินโดนีเซียและอันดามัน ขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทธแปซิฟิกด้วย โดยให้อินโดนีเซียเป็นศูนย์กลางของอินโดแปซิฟิก ซึ่งก็จะขึ้นมาในทะเลอันดามันบางส่วน และตรงนั้นก็จะเป็นเขตแดนไทย พม่า อินเดีย และอินโดนีเซียด้วย ซึ่งก็เป็จุดที่น่าสนใจ” รศ.ดร.ดุลยภาคกล่าว

รศ.ดร.ดุลยภาคกล่าวต่อไปว่า การแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ในอ่าวเบงกอลในพม่า ก็น่าจะกระทบถึงไทย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แล้วเราจะแก้สถานการณ์นี้ได้อย่างไร ตนขอเสนอถึงรัฐบาลไทย ทั้งรัฐสภา ภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจ และสื่อมวลชน ตนคิดว่าเราน่าจะมีวิสัยทัศน์และภูมิรัฐศาสตร์เป็นของตัวเอง

“ขอเสนอกลยุทธ 4 ลู่ 2 แกน โดย 4 ลู่ หมายถึง ช่องทางคอนเน็กชั่นที่ไทยจะไปติดต่อกับตัวแสดงต่างๆของพม่า ในช่วงสถานการณ์สงครามกลางเมืองหลังรัฐประหาร ลู่ 1 คือ การดำเนินความสัมพันธ์กับรัฐพม่า โดยรวมตรงกลางพื้นที่หรือเขต Dry Zone ตรงเนปิดอว์ รัฐบาลไทยยังให้น้ำหนักกับการรักษาความสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารพม่าเหมือนเดิม เพราะตรงบริเวณ Burman Heartland มินอ่องลายยังรักษาฐานอำนาจอยู่แถบนั้นได้

เพียงแต่เราเพิ่มลู่  2 เข้าไป คือ อาณาบริเวณชายแดนอย่าง รัฐกะเหรี่ยง รัฐกะยา เราพบว่าอำนาจรัฐลดถอยลง แล้วอำนาจกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์กับฝ่ายต่อต้านพุ่งสูงขึ้น ให้เราเพิ่มแพลตฟอร์มการติดต่อกับฝ่ายต่อต้าน และฝ่ายกองกำลังชาติพันธุ์ด้วย มากกว่าสมัยก่อนที่เราเทน้ำหนักไปที่กองทัพทหารพม่าอย่างเดียว” รศ.ดร.ดุลยภาคกล่าว

รศ.ดร.ดุลยภาคกล่าวอีกว่า ลู่ 3 คือ การติดต่อมหาอำนาจและองค์กรระดับโลก เช่น จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหประชาชาติ ซึ่งประเทศเหล่านี้เข้ามามีบทบาทในการสร้างสันติภาพ หรือ เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ในพม่า เราจะเข้าไปถ่วงดุลอำนาจหรือการกระชับความสัมพันธ์กับกลุ่มไหน ต้องนี้ก็ต้องระวังเหมือนกัน

“ลู่ 4 คือ เวทีอาเซียน อย่างน้อยตลอดปีนี้ก็ต้องให้เกียรติและกระชับความสัมพันธ์กับสปป.ลาว ในฐานะประธานอาเซียน ในขณะเดียวกันก็จะต้องติดต่อกับรัฐบาลจาการ์ตา ซึ่งเสียงดังฟังชัดและเป็นพี่ใหญ่ในอาเซียน แล้วก็เล่นเรื่องพม่าโดยเฉพาะในเรื่องการพัฒนาประชาธิปไตยและกฎเกณฑ์มนุษยธรรม และควรจะต้อง look forward ในการมองไปถึงมาเลเซีย กับ ฟิลิปปินส์ ซึ่ง 2 ประเทศนี้จะขึ้นมาเป็นประธานอาเซียนต่อจากสปป.ลาวในปีถัดๆไป นี่คือ 4 ลู่ ที่สัมพันธ์กับ stakeholder ในประเทศพม่า” รศ.ดร.ดุลยภาคเผย

รศ.ดร.ดุลยภาคกล่าวว่า ส่วน 2 แกน ขอเสนอแกนใน หรือ แกนที่ 1 คือ อาณาบริเวณแถบที่เป็นรูปขวานทองของประเทศไทยเรา ให้เรารักษาพื้นที่นี้ไว้อย่าให้ใครละเมิดอธิปไตย หรือ ละเมิดเส้นเขตแดน ซึ่งปัจจุบันมีกองกำลังชาติพันธุ์น่าจะเข้ามาอยู่ในพื้นที่กรรมสิทธิ์ที่ดินซับซ้อนตรงระหว่างฝั่งไทยกับพม่า อันนี้ก็ต้องจับตาดู

“แต่ขอให้เพิ่มแกนนอก หรือ แกน 2 คือ เราต้องกำหนดอาณาบริเวณใหม่ที่อยู่นอกเหนือจากประเทศไทย และมองออกไปข้างหน้า เพื่อไปทำกิจกรรมทางการทูตเชิงสร้างสรรค์ หรือ ไปแผ่อิทธิพลในพื้นที่ต่างๆ ไปมีบทบาททางการตลาดในพื้นที่นั้น หรือ มีบทบาทในเชิงยุทธศาสตร์ได้อย่างไร แล้วเราบอกได้อย่างไรว่าอยู่ตรงไหน

ผมต้องบอกก่อนว่า ณ วันนี้เราเจอปัญหาใหม่ในทางภูมิรัฐศาสตร์ คือ ทั้งรัฐมหาอำนาจ ตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐ อยากจะสร้างแนวกันชน อยากจะสร้างแนวนอกเขตพื้นที่ของตัวเอง หรือแม้กระทั่งสร้างพื้นที่มหารัฐ คือ พื้นที่ดั้งเดิมไม่ใหญ่ แต่ว่ามีประชากรของตัวเองไปอยู่อีกพื้นที่หนึ่ง เพราะฉะนั้น take over พื้นที่เหล่านั้นเลย แล้วสถาปนาขึ้นมาเป็นรัฐใหม่ มันไม่ใช่เป็นวิธีการคิดแบบจีน หรือ รัสเซียอย่างเดียว แต่เราจะเห็นว่าอาณาบริเวณอื่นถูกอธิบายด้วยภาษาจีน ซึ่งแสดงว่าจีนมองออกไปนอกดินแดน แล้วเจาะเข้ามาในพม่ามากขึ้นทุกที” รศ.ดร.ดุลยภาคระบุ

รศ.ดร.ดุลยภาคกล่าวว่า ประเทศไทยเราหายไปไหนมา ทำไมขอบเขตอำนาจของเราอยู่ในขวานทองอย่างเดียวเลยใช่ไหม หรือ เราควรคิดอะไรใหม่ เพื่อจะให้มีพื้นที่ผลประโยชน์ของประเทศไทยก้าวหน้า ก้าวไกลไปสู่ดินแดนอื่นมากขึ้น เราสามารถทำให้เราไม่ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับอย่างเดียวได้หรือไม่

“ผมขอเอาใจนักการเมืองทั้งฝ่ายขวาจัดอนุรักษ์นิยม รัฐบาลเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ผมคิดว่า 3 พรรค 3 กลุ่มอำนาจ เวลาจะมองพื้นที่ส่วนหน้าที่มองนอกเขตพื้นที่ประเทศไทย เราอาจจะเห็นร่วมกันได้ ผมขอเสนอว่ามันมีบางพื้นที่ ที่น่าจะเป็นเขตผลประโยชน์ที่เราน่าจะเข้าไปเล่นบทบาทการทูตมากขึ้น เช่น เขตรัฐฉานตอนใต้ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นเมืองเชียงตุงจากแม่น้ำสาละวินลงมา ลงมารัฐกะยา ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนไทย” รศ.ดร.ดุลยภาคเผย

รศ.ดร.ดุลยภาคกล่าวว่า ถ้าถามนักการเมืองแบบขวาจัดหรืออนุรักษ์นิยม ตนก็บอกเลยว่าจำได้ไหม ช่วงรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม เราแต่งทัพกองทัพพายัพเข้าไปแต่เชียงตุง เมืองสำคัญต่างๆ แล้วใช้แม่น้ำสาละวินเป็นแนวอาณาเขต จัดตั้งกลุ่มจังหวัดสหรัฐไทยเดิม สิ่งนี้คืออำนาจรัฐไทยในมหาอาณาจักรไทย

“ถามว่าอำนาจรัฐไทยหลงเหลือไหมในเขตนี้ ผมว่าแทบจะสูญหายไปเป็นส่วนใหญ่ เพราะมันมีอำนาจของจีนเป็นส่วนใหญ่พุ่งเข้ามา และการสร้างกองทัพว้าแดงของสหรัฐว้า สหรัฐไทยเดิม สู้สหรัฐว้า ไม่ได้ คำถามก็คือการสร้างรัฐของว้าต้องผลิตยาเสพติด เพื่อสร้างสร้างเส้นเขตแดนให้มากขึ้น ถ้าเราตั้งรับในเส้นเขตแดนขวานทองอย่างเดียว โดยที่ไม่ move forward ไปเลย ผมคิดว่าเราน่าจะอยู่ในสถาการณ์ที่ยากลำบาก ในการรับมือกันรัฐว้า หรือ จีน

เอาใจเพื่อไทย ดูสิว่า ซอฟต์พาวเวอร์ ผู้คนที่อยู่ในเชียงตุง อยู่ในรัฐฉาน มีวัฒนธรรมคล้ายกับล้านนา เพราะฉะนั้นเสื้อผ้า อาภรณ์ แฟชั่น เครื่องแต่งกาย อาหารการกิน คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ก็ดูได้เลยว่า จะเข้าไปลงทุนได้อย่างไรในพื้นที่เหล่านี้ แล้วถ้านายทักษิณ ชินวัตร อยากเข้าไปปราบปรามยาเสพติด พื้นที่ของว้าแดงก็ต้องเข้าไปจัดการเลย ว่าเราจะมีส่วนร่วมได้อย่างไร” รศ.ดร.ดุลยภาคเผย”

รศ.ดร.ดุลยภาคกล่าวว่า เอาใจพรรคฝ่ายค้านก้าวไกล move forward มองออกไปข้างหน้า มองออกไปนอกเขตแดนประเทศไทยดั้งเดิมที่เป็นขวานทอง ซึ่งจะเป็นการสร้างสรรความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในพื้นที่บริเวณที่อยู่ในดินแดนอื่น ที่อยู่ในเอเชียอาคเนย์ ตนคิดว่าสิ่งนี้ก็ตอบโจทย์

“ผมคิดว่าการที่มองออกไปข้างนอกจะทำให้เราผลิตทุกวิสัยทัศน์ภูมิรัฐศาสตร์ และภูมิยุทธศาสตร์ที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ต่อหลายฝ่าย สุดท้ายอยากฝากไว้ว่ามติชนได้ตั้งเวทีนี้ขึ้นมา เพื่ออยากกระตุ้นให้คนหนุ่มสาวเริ่มต้นมีระบบคิดแบบภูมิรัฐศาสตร์ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ ผมคิดว่าในอนาคตจะมีอีกหลายคนเลยที่เป็นนักคิดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ในการช่วยเหลือประเทศชาติ” รศ.ดร.ดุลยภาคทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image