เอกชนประสานเสียง หวั่นต่างชาติชะลอลงทุนไทย เกาะติดอนาคตรัฐบาล

เอกชนประสานเสียง หวั่นต่างชาติชะลอลงทุนไทย เกาะติดอนาคตรัฐบาล

กรณีศาลรัฐธรรมนูญพิจารณารับคำร้องของกลุ่ม 40 สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้ว่า นายพิชิต ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เพราะเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุก 6 เดือน ฐานละเมิดอำนาจศาล ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เสียง มีคำสั่งรับคำร้องนายเศรษฐาไว้พิจารณา และเสียงข้างมาก 5:4 ให้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กระทบกับความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ อาจจะส่งผลให้เกิดการลังเลใจ และชะลอการตัดสินใจ เพื่อรอดูสถานการณ์ต่อไป เพราะการรับคำฟ้องแม้ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ได้ทำให้เกิดความเสี่ยงขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่ากระบวนการในการสอบสวนจะออกมาอย่างไร นักลงทุนจะตั้งคำถามว่า โครงการที่รัฐบาลรับปากไว้จะเป็นอย่างไร คดีนี้จะใช้เวลาในการตัดสินนานแค่ไหน

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) กล่าวว่า ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย เมื่อเห็นสถานการณ์นี้อาจจะต้องชะลอการลงทุนไปก่อน (Wait and See) แม้จะมีการเจรจาการลงทุนกันมาก่อน แต่ถ้าระยะถัดไปหากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งหยุดปฏิบัติงานของนายกฯ การทำงานอาจจะลากยาวไปถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนอีกครั้ง นักลงทุนจะชะลอตัวลง เพราะความไม่เสถียรภาพการเมือง รวมถึงยังไม่ทราบนโยบายแน่ชัดของรัฐบาล นอกจากนี้อาจกระทบต่อเศรษฐกิจในช่วงหลังของปีนี้ด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image