เมื่อสายวันที่ 11กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดแถลงข่าวด่วน โดยนางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์และนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
นางดวงพร กล่าวว่า ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ จะรวบรวมเอกสารข้อมูลต่างๆ จัดส่งให้กรมบังคับคดี เพื่อตั้งเรื่องยึดอายัดทรัพย์กับทั้งข้าราชการและนักการเมืองรวม 6 ราย มูลค่า 20,000 ล้านบาท กรณีคดีทุจริตขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ขณะเดียวกันกรมการค้าต่างประเทศจะดำเนินการสืบทรัพย์ควบคู่กันไป สำหรับคดีบังคับทางปกครองนี้มีอายุความ 10 ปี
“ส่วนที่มีหลายฝ่ายมองว่ามีดำเนินการล่าช้าของคดีนี้ในช่วงที่ผ่านมานั้น ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ประกอบกับเป็นเรื่องใหม่มีรายละเอียดข้อมูลจำนวนมาก และเป็นเรื่องทางเทคนิค จึงต้องใช้เวลาในการหารือรายละเอียดกันพอสมควรกับกรมบังคับคดี ก่อนจะดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ โดยที่ผ่านมาได้หารือและทำงานร่วมกันตลอด คาดว่าต่อจากนี้กระบวนการจะสืบเนื่องต่อไปจนกว่าจะสามารถมีการชดใช้ค่าเสียหายได้” นางดวงพรกล่าว
นางสาวรื่นวดี กล่าวว่า กรมบังคับคดีมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุนคดีนี้ ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นโจทก์ ได้ส่งข้อมูลตั้งเรื่องเพื่อดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ และสามารถทำหนังสือมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่มาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป จากนั้นกรมบังคับคดีจะประสานไปยังหน่วยงานต้นสังกัดทรัยพ์สินที่มีทะเบียนต่างๆ เช่น โฉนดที่ดินของกรมที่ดิน บัญชีธนาคารต่างๆ เพื่อแจ้งว่าทรัพย์ดังกล่าวได้อายัดแล้ว และดำเนินการขายทอดตลาดต่อไป แต่หากทรัพย์มีมูลค่าไม่เพียงพอต่อมูลหนี้ ต้องถามไปยังกรมบัญชีกลางเพื่อหาวิธีการดำเนินการต่อไป
นางสาวรื่นวดี กล่าวว่า การดำเนินคดีดังกล่าว เป็นไปตาม พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง มาตรา 57 ที่ให้เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการบังคับทางปกครองยึดหรืออายัดทรัพย์สิน เพื่อชำระมูลหนี้ให้ครบถ้วน โดยมีการอนุโลมให้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้ร่วมดำเนินการได้
รายงานข่าวระบุว่า เกี่ยวกับคดีมีนักการเมืองและข้าราชการ 6 ราย ที่เข้าข่ายต้องชดใช้ค่าเสียคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็น นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ต้องจ่ายค่าเสียหาย 1,770 ล้านบาท นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ 2,300 ล้านบาท ส่วนนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ ต้องจ่ายคนละ 4,000 ล้านบาท
