มนพร เจริญศรี
ชู‘การบินพลเรือน’
สานฝันให้เป็นจริง
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้กำกับดูแลสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) ได้ฉายภาพนโยบายให้ สบพ.เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฮับการบินตามที่นายกรัฐมนตรีให้นโยบายเอาไว้
⦁ หลังจากนายกรัฐมนตรีประกาศเดินหน้าให้ไทยเป็นฮับการบิน ได้รับมอบหมายให้ทำอะไรบ้าง
จากการประกาศวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรี ผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค โดยนายกฯตั้งเป้าไทยติด 1 ใน 20 ของโลกภายใน 5 ปี รองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 150 ล้านคนต่อปีนั้น ขณะนี้ได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานในกำกับดูแลเตรียมความพร้อมและเร่งดำเนินการ โดยทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจการการบินพลเรือนของประเทศ กำกับดูแลหน่วยงานภาครัฐให้พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบกิจการการบินพลเรือน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการในกิจการการขนส่งทางอากาศ รวมถึงผู้ใช้บริการในกิจการการขนส่งทางอากาศเชิงพาณิชย์ให้สามารถดำเนินกิจการและให้บริการ เพื่อให้ตลาดสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน นำมาสู่การบูรณาการร่วมกันในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคต่อไป
หากเราจะผลักดันและพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินและการขนส่งแห่งภูมิภาคได้ตามนโยบายของนายกฯ สิ่งสำคัญในลำดับแรก คือ ทุกหน่วยงานต้องเตรียมบุคลากรให้เพียงพอรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน โดยหนึ่งในหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมการบิน และพร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ได้แก่ สถาบันการบินพลเรือน ซึ่งวันนี้สถาบันแห่งนี้พร้อมรับนโยบายของนายกรัฐมนตรี
ที่กล่าวเช่นนี้เพราะได้รับรายงานว่าสถาบันการบินพลเรือนมีบทบาทสำคัญในการผลิตและพัฒนาบุคลากรการบินแบบครบวงจร ทั้งหลักสูตรภาคพื้นและภาคอากาศเข้าสู่อุตสาหกรรมการบินของประเทศและภูมิภาคมาอย่างยาวนาน ประสบความสำเร็จได้รับการรับรองให้เป็นหนึ่งในสถาบันฝึกอบรมที่มีมาตรฐานสูงสุด เป็น 1 ใน 4 ของสถาบันฝึกอบรมในภูมิภาคเอเชีย และเป็น 1 ใน 9 สถาบันฝึกอบรมจากจำนวนสถาบันทั้งหมด 128 แห่ง จาก 77 ประเทศทั่วโลก โดยเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 สถาบันการบินพลเรือนประสบความสำเร็จได้รับการรับรองจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ในฐานะสมาชิกโครงการ ICAO TRAINAIR PLUS ระดับ Platinum ซึ่งเป็นสถานะสมาชิกระดับสูงสุดของโครงการและเป็นแห่งแรกแห่งเดียวในประเทศไทย ถือเป็นอีกก้าวแห่งความสำเร็จสู่มาตรฐานการฝึกอบรมด้านการบินระดับโลก ในฐานะที่สถาบันการบินพลเรือนมีบทบาทสำคัญ เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่ทำหน้าที่ผลิตและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านการบิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศอย่างยั่งยืนสอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่กำหนดให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการบิน (Aviation Hub) ผลแห่งความสำเร็จในครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพและคุณภาพในการผลิตบุคลากรด้านการบิน อันจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินในภาพรวม และมีคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและภูมิภาค
การได้ยกระดับสมาชิกสู่ Platinum นอกจากจะสร้างความภาคภูมิใจให้กับบุคลากรของสถาบันการบินพลเรือนแล้ว ยังส่งผลประโยชน์ในภาพใหญ่ใน 4 ด้าน คือ
1.ประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นจากอุตสาหกรรมการบินของโลก ว่ารัฐบาลให้การสนับสนุนหน่วยงานอุตสาหกรรมการบินของประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งจะส่งผลมีรายได้จากผู้เข้าอบรมใช้จ่ายและท่องเที่ยวในประเทศต่อหลังจากการเข้ารับการฝึกอบรม
2.ประโยชน์ต่อองค์กร
สบพ.จะมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมการบินของโลก และมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายลิขสิทธิ์และการจัดฝึกอบรมหลักสูตรระดับ ICAO ลิขสิทธิ์ของสถาบันการบินพลเรือน นอกจากนี้ อาจารย์ของสถาบันการบินพลเรือน สามารถดำเนินการสอนให้กับสมาชิก TRAINAIR PLUS อื่นๆ ที่สำคัญ สบพ.ยังสามารถพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพสูงด้วยต้นทุนที่ต่ำลงได้อีกด้วย
3.ประโยชน์ต่อองค์กรด้านการบินอื่นๆ
สำหรับองค์กรด้านการบิน หรือหน่วยงานพันธมิตรอื่นๆ จะสามารถจัดให้บุคลากรขององค์กรได้รับความรู้และทักษะจากหลักสูตรและระบบการอบรมที่มีคุณภาพ และได้รับการรับรองที่เป็นมาตรฐานสากล ในต้นทุนการฝึกอบรมที่ประหยัดค่าใช้จ่ายและใช้เวลาน้อยกว่าการอบรมจากหลักสูตรของต่างประเทศหรือเดินทางไปอบรมที่ต่างประเทศ
4.ประโยชน์ต่อนักศึกษาหรือผู้เข้าฝึกอบรม
บุคลากรด้านการบิน นักศึกษา หรือผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้รับความรู้และทักษะจากหลักสูตรและระบบการอบรมที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรองที่เป็นมาตรฐานสากล ที่สำคัญผู้เข้าอบรมและหน่วยงานด้านการบินสามารถเข้าถึงหลักสูตรฝึกอบรมด้วยต้นทุนต่ำ ณ Office of TRAINAIR PLUS Course Development and Training (TCT) สถาบันการบินพลเรือน และใช้เวลาน้อยกว่าการอบรมจากหลักสูตรในต่างประเทศ
ความสำเร็จครั้งนี้นับเป็นเรื่องน่ายินดี และนำความภาคภูมิใจมาสู่วงการการบินของประเทศไทย ทั้งในฐานะที่สถาบันการบินพลเรือนเป็นสถาบันหลักในการผลิตและพัฒนาบุคลากรการบินของประเทศที่มีมาตรฐานสากล และยังได้พิสูจน์สมรรถนะด้านการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมตามมาตรฐานของ ICAO (Standardized Training Packages: STP) สำเร็จถึงระดับสูงสุด แน่นอนว่าสมาชิกโครงการ TRAINAIR PLUS ในระดับ Platinum นี้ จะส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีให้แก่สถาบันการบินพลเรือน และสร้างความเชื่อมั่นทางด้านการบินให้กับประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางผลิตบุคลากรด้านการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อไป
⦁ ด้านบุคลากรของ สบพ.มีความพร้อมแล้วหรือยัง
เรามีแนวทางการพัฒนาบุคลากรของ สบพ.เพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาบุคลากรการบินในระยะเร่งด่วนภายหลังวิกฤตสถานการณ์โควิด ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมการบิน ทำให้ขาดการพัฒนาบุคลากรการบินอย่างต่อเนื่อง ในการกลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน สบพ.ได้จัดทำหลักสูตรที่พร้อมยกระดับมูลค่าของแรงงานไทยให้ทันกับเทคโนโลยีการบินที่เปลี่ยนแปลงไป จึงจำเป็นต้องเสริมทักษะใหม่ (Reskill) ตามเทคโนโลยี หรือเพิ่มทักษะความสามารถให้สูงยิ่งขึ้น (Upskill) รวมทั้ง สบพ.ต้องประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อดึงความสามารถและทรัพยากรจากฝ่ายต่างๆ มาใช้สนับสนุนการจัดเตรียมบุคลากรให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล สนับสนุนทุกหน่วยงานด้านการบินและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล รวมถึงความพร้อมในการผลิตแรงงานใหม่ที่จะป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมการบินในอนาคตต่อไป
ได้มอบนโยบายให้สถาบันการบินพลเรือนประสานความร่วมมือทางวิชาการกับผู้ประกอบการในการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการ การส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนการสหกิจศึกษา ที่เน้นการฝึกภาคปฏิบัติในสถานประกอบการจริง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้สถานประกอบการมีบุคลากรที่มีความพร้อมในการเข้าไปปฏิบัติงานภายหลังการสำเร็จการศึกษา ความท้าทายของการพัฒนาบุคลากรจึงต้องเริ่มตั้งแต่การผลิตให้ได้มาตรฐานในระดับสากล และต้องผลิตให้เพียงพอในทุกสาขา รวมถึงการผลักดันงานวิจัยและสร้างนวัตกรรมด้านการบินเชิงบูรณาการ
นอกจากการผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญอย่างมืออาชีพ มีทัศนคติที่ดี ควบคู่ไปกับการตระหนักเรื่องความปลอดภัย นอกจากความรู้ทางวิชาการแล้ว ยังได้เน้นย้ำหลักสำคัญที่ต้องปลูกฝังให้ สบพ.ต้องสร้างคนดี มีความซื่อสัตย์สุจริต ความกตัญญู มีคุณธรรมประจำตัว มี Service Mind เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศต่อไป
มีความเห็นว่า สบพ.เป็นหน่วยงานที่มีความพร้อมในการสร้างมาตรฐานบุคลากร รวมถึงมีหลักสูตรและอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย เพื่อยกระดับความสามารถให้ได้มาตรฐานด้านการบินพลเรือน และมีการพัฒนาบุคลากรให้สอดคล้องกับความต้องการ จึงขอเรียนให้ทุกท่านมั่นใจได้ว่าอุตสาหกรรมการบินได้กลับเข้าสู่สภาวการณ์ปกติแล้ว และจากนโยบายรัฐบาล จึงมีความต้องการบุคลากรด้านการบินเป็นจำนวนมาก ขอฝากไปยังน้องๆ นักเรียนที่มีความสนใจด้านการบิน ขอสร้างความเชื่อมั่นให้กับน้องๆ ที่สนใจอาชีพในอุตสาหกรรมการบินได้พิจารณา สบพ.เป็นทางเลือกในการศึกษาต่อ ซึ่งขณะนี้ สบพ.กำลังเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ ประจำปีการศึกษา 2567 เพื่อเตรียมความพร้อมรับการกลับมาของอุตสาหกรรมการบิน ตอบสนองต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน
อันจะสร้างรายได้ให้กับประเทศมากยิ่งขึ้น
ประการสำคัญคือเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินและการขนส่งแห่งภูมิภาคตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีต่อไป
หมายเหตุ – เนื้อหามาจากฉบับพิเศษมติชน-ข่าวสดเรื่องฮับการบิน อิกไนต์ ไทยแลนด์ ฉบับวันที่ 19 มิถุนายน 2567