ภูมิธรรม ไม่ล้มประมูลข้าว 10 ปี แม้ 3 รายมีคดีในศาลปกครอง ลุ้นอคส.เรียกราย 2-3 ต่อรองราคา

แฟ้มภาพ

‘ภูมิธรรม’ ยันไม่ล้มประมูลข้าว 10 ปี หลังพบ 3 รายไม่ผ่านคุณสมบัติ จับตาราย 2-3 คว้าข้าวราคา 17 บาท

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่กระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการระบายข้าว 10 ปีในสต๊อกรัฐบาล 1.5 หมื่นตัน ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่าคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผู้เสนอซื้อข้าวสารที่เปิดประมูลครั้งนี้ครบแล้วทั้ง 6 ราย และพบว่า ในจำนวนนี้มี 3 รายไม่ผ่านคุณสมบัติ เบื้องต้นพบว่า ผู้เสนอราคาสูงสุดรายแรกน่าจะไม่ผ่าน ขาดคุณสมบัติ ดังนั้น คณะกรรมการต่อรองราคาก็จะเรียกรายถัดไปๆ มาเจรจา เพื่อให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด และเจรจาแยกเป็นแต่ละคลัง เมื่อเป็นบริษัทผ่านคุณสมบัติและเสนอราคาซื้อเป็นที่น่าพอใจก็จะเห็นชอบ อย่างไรก็ตาม มีความตั้งใจจะไม่ล้มการประมูลครั้งนี้ และต้องการให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด

“ตอนนี้คณะกรรมการต่อรองกำลังทำงาน เรียกรายถัดไปที่ไม่มีปัญหา หรือขาดคุณสมบัติมาต่อรองราคา ถ้าเขาขยับราคาให้ได้น่าจะเป็นเรื่องดี เมื่อรายที่ให้ราคาสูงสุดในแต่ละคลังมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ต้องให้โอกาสรายที่ 2 รายที่ 3 ที่มีคุณสมบัติครบและเสนอราคาสูงสุดในแต่ละคลังได้มีโอกาสเข้ามาเจรจาต่อรอง โดยให้ยึดราคาที่ผู้เสนอราคาสูงสุดเคยให้ไว้

แต่จะได้หรือไม่ได้อยู่ที่การต่อรองของ อคส. เพราะอยากให้การเปิดประมูลข้าวรอบนี้จบลงได้ตามที่ตั้งใจไว้ เพราะถือว่าขายได้ราคาดีมาก แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องล้มและเปิดประมูลใหม่ ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น” นายภูมิธรรมกล่าว

Advertisement

แหล่งข่าวระบุว่า ผู้เสนอประมูล 3 รายที่ถูกตัดสิทธิ ได้แก่ บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด และ บริษัท เอส.เอส.เอ็ม.อาร์. การเกษตร จำกัด เนื่องจากผลการตรวจสอบเชิงลึกพบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องคดีค้างเก่ากับนิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ทำความเสียหายให้แก่ อคส. และ ถูก อคส. ฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายตามสัญญารับฝากเก็บรักษามันเส้น ข้าวสาร และสัญญาจ้างตรวจสอบ และรับผิดชอบคุณภาพข้าว ซึ่งเป็นคดีค้างเก่าและยังอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครอง แม้ว่าทั้ง 3 ราย จะไม่ใช่เป็นคู่กรณีโดยตรง แต่มีความเชื่อมโยงทางอ้อมและเกี่ยวพันกัน

Advertisement

สำหรับ 6 บริษัท ที่ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.บริษัทวีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้ง 64,010,216.32 บาท เฉลี่ย 19.070 บาท/กก. คลังสินค้ากิตติชัย 222,292,403.22 บาท เฉลี่ย 19.070 บาท/กก. 2.บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้ง 60,482,800 บาท เฉลี่ย 18.019.11 บาท/กก. คลังสินค้ากิตติชัย 209,843,000 บาท เฉลี่ย 18.001.99 บาท/กก. 3.บริษัท เอส.เอส.เอ็ม.อาร์.การเกษตร จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้งเพียงคลังเดียว 56,088,888 บาท เฉลี่ย 16.710.07 บาท/กก.

4.บริษัท ทรัพย์แสงทองไรซ์ จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้ง 40,980,000 บาท เฉลี่ย 12.208.81 บาท/กก. คลังสินค้ากิตติชัย 182,046,000 บาท เฉลี่ย 15.617.35 บาท/กก. 5.บริษัท สหธัญ จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้งเพียงคลังเดียว 62,734,711.23 บาท เฉลี่ย 18.690 บาท/กก. และ 6.บริษัท บี เอ็น เค การเกษตร 2024 จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้ง 53,705,477.77 บาท เฉลี่ย 16 บาท/กก. คลังสินค้ากิตติชัย 186,506,473.60 บาท เฉลี่ย 16 บาท/กก.

ทั้งนี้ หลังจาก 3 รายถูกตัดสิทธิยังเหลือ 3 ราย ที่จะได้รับการเรียกมาเจรจาต่อรองราคา แยกเป็น คลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) ปริมาณ 11,656 ตัน อันดับ 2 คือ บริษัท บี เอ็น เค การเกษตร 2024 เสนอราคา 16 บาท/กก. และอันดับ 3 คือ บริษัท ทรัพย์แสงทองไรซ์ เสนอราคา 15.617.35 บาท/กก. และคลังบริษัท พูนผลเทรดดิ้ง จำกัด ปริมาณ 3,356 ตัน อันดับ 2 คือ บริษัท สหธัญ เสนอราคา 18.690 บาท/กก. อันดับ 3 คือ บริษัท บี เอ็น เค การเกษตร 2024 เสนอราคา 16 บาท/กก.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image