ผู้เขียน | ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ สบร. |
---|
คิดเห็นแชร์ : เรียนรู้เพื่อเปลี่ยนแปลง
เตรียมพร้อมรับมืออนาคตไปด้วยกัน
บทความวันนี้ ผมขอพูดถึงเรื่องอนาคตและการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงสักนิดนะครับ
เรื่องของเรื่องก็คือว่า โลกของเรากำลังเปลี่ยนแปลงด้วยความรวดเร็ว ทุกวินาทีเต็มไปด้วยความท้าทายที่ไม่เคยเจอมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น AI ที่ฉลาดขึ้นทุกวัน สภาพอากาศที่แปรปรวน หรือเศรษฐกิจที่ผันผวน แต่ท่ามกลางความวุ่นวายนี้ มีอาวุธลับอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้เราไม่ตกขบวนของอนาคต นั่นคือ “การเรียนรู้” – ที่ไม่ใช่แค่การท่องจำหรือการสอบผ่าน แต่เป็นการเปิด Operating System ให้สมองได้อัพเกรดตลอดเวลา พร้อมรับมือกับทุกการอัพเดตของโลก
การเรียนรู้ที่แท้จริงคือการปลดล็อกระบบความคิดของตัวเอง เปิดใจรับข้อมูลใหม่ๆ ตั้งคำถามที่ท้าทายกรอบเดิม และลงมือปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดในชีวิตด้วยตัวเอง นี่คือเหตุผลที่เราควรให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตที่กำลังจะพุ่งชนเข้ามา การสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้คือกุญแจไขประตูสู่อนาคต เป็นเกราะป้องกันตัวชั้นเยี่ยมในโลกที่พลิกผันไม่หยุดนิ่ง นี่คือเหตุผลที่เราต้องสนับสนุน “เทศกาลการเรียนรู้กรุงเทพฯ” หรือ Learning Fest Bangkok 2024 เพราะมันไม่ใช่แค่งาน แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง
งานนี้จัดขึ้นโดยสถาบันอุทยานการเรียนรู้ หรือ TK Park ซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในประเทศไทย ปีนี้เป็นการจัดงานครั้งที่ 2 ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยน? อยู่? คือ – I change, therefore I am” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงผ่านการเรียนรู้ Learning Fest Bangkok 2024 ไม่ใช่แค่งานแสดงนิทรรศการหรือการสัมมนาทั่วไป แต่เป็นการรวมพลังของหน่วยงานพันธมิตรกว่า 70 แห่ง เพื่อจัดกิจกรรมด้านนวัตกรรมการเรียนรู้มากกว่า 100 รายการ ครอบคลุมทุกช่วงวัยและความสนใจ ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ จากนักเรียนนักศึกษาไปจนถึงผู้ประกอบการและนักธุรกิจ และ สิ่งที่น่าสนใจคือ งานนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในพื้นที่ของ TK Park เท่านั้น แต่ยังกระจายไปทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วย นี่คือการทำให้ “การเรียนรู้” เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายและอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคนอย่างแท้จริง
หนึ่งในไฮไลต์ที่น่าสนใจคือ TK FORUM 2024 ภายใต้หัวข้อ “Library Makes Change” ซึ่งจะนำเสนอกรณีศึกษาของห้องสมุดที่ปรับเปลี่ยนบทบาทและการให้บริการ เพื่อสร้างชุมชนและสังคมที่น่าอยู่มากขึ้น นี่เป็นตัวอย่างที่ดีของการปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
และเพื่อเป็นการตอกย้ำความสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต งานนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญอย่างการมอบรางวัล “เอ๊ะอวอร์ด” ซึ่งเชิดชูเกียรติบุคคลและองค์กรที่สร้างสรรค์นวัตกรรมการเรียนรู้แบบสุดล้ำ รางวัลนี้ไม่ใช่แค่การประกาศเกียรติคุณ แต่เป็นการจุดประกายให้ทุกคนเห็นว่าการเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกรูปแบบ และทุกคนมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น “MUSEUM 2124” ที่จะพาเด็กๆ ท่องโลกในอีก 100 ปีข้างหน้าผ่านจินตนาการ หรือ “Taste of Tomorrow” ที่ให้เด็กๆ ได้ลิ้มลองอาหารแห่งอนาคตที่ทำจากวัตถุดิบทางเลือกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้ความรู้ แต่ยังกระตุ้นให้เกิดการคิดวิเคราะห์และจินตนาการถึงอนาคตด้วย
สำหรับผู้ใหญ่ มีกิจกรรมที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น เวิร์กช็อปฝึกทักษะการเป็นหัวหน้าที่เข้าใจลูกทีม การพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานในหลากหลายสาขา และกิจกรรม “Thai Board Game Connect” ที่จะพาไปรู้จักกับอุตสาหกรรมบอร์ดเกมไทย ซึ่งเป็นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและความสนุกสนาน และที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ เวทีเสวนา “Read for Change” ที่จะเปิดมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับหนังสือที่สร้างการเปลี่ยนแปลงทางความคิดและสังคม นี่เป็นการตอกย้ำว่า การอ่านไม่ใช่เพียงการรับข้อมูล แต่เป็นการเปิดโลกทัศน์และสร้างแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงตนเองและสังคม
นอกจากนี้ การที่กรุงเทพมหานครได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้โลก (Global Network of Learning Cities หรือ GNLC) และนำห้องสมุดกว่า 20 เขตทั่วกรุงเทพฯ เข้าร่วมในเทศกาลครั้งนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างโอกาสการเรียนรู้ที่ทั่วถึงและยั่งยืนสำหรับประชาชนในเมืองหลวงแห่งนี้ การจัดงานในลักษณะนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้คนทุกวัยเห็นความสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เราไม่เพียงแค่อยู่รอด แต่ยังสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้
แต่การเรียนรู้ไม่ควรหยุดอยู่แค่ในงานเทศกาลเท่านั้น เราต้องสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในทุกภาคส่วนของสังคม ไม่ว่าจะเป็นในครอบครัว โรงเรียน สถานที่ทำงาน หรือชุมชน เราต้องส่งเสริมให้ทุกคนมีทัศนคติที่เปิดกว้าง พร้อมรับความรู้ใหม่ๆ และกล้าที่จะลองผิดลองถูก เช่น
1.ในฐานะผู้นำองค์กร เราต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ให้พนักงานมีโอกาสพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ และสร้างวัฒนธรรมที่ให้คุณค่ากับการเรียนรู้และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
2.ในฐานะพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เราต้องปลูกฝังนิสัยรักการเรียนรู้ให้กับลูกหลาน ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ได้เกรดดีๆ แต่เพื่อให้พวกเขามีความอยากรู้อยากเห็น กล้าตั้งคำถาม และมีความสุขกับการค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง
3.ในฐานะประชาชน เราต้องตระหนักว่าการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด ไม่มีใครแก่เกินเรียน และไม่มีอะไรที่เราจะเรียนรู้ไม่ได้ หากเรามีความมุ่งมั่นและเปิดใจ
Learning Fest Bangkok 2024 เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เป็นการจุดประกายให้เราเห็นว่า การเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การเล่นเกม การทำกิจกรรม หรือการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทุกอย่างล้วนเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ผมขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมงาน Learning Fest Bangkok 2024 ในวันที่ 1-4 สิงหาคม 2567 นี้ มาร่วมเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ไปด้วยกัน ผมเชื่อว่าประสบการณ์ที่ท่านจะได้รับจากงานนี้จะมีคุณค่าและสร้างแรงบันดาลใจให้ท่านได้อย่างแน่นอน
มาร่วมกันเรียนรู้ เปลี่ยนแปลง และเติบโตไปพร้อมกัน เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับตัวเราเองและสังคมของเรานะครับ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ learningfest.tkpark.or.th และ Facebook Page: facebook.com/learningfestBKK