‘สุริยะ’ เป็นประธาน ‘รฟม.-BEM’ เซ็นรถไฟฟ้าสายสีส้มวันนี้ เสนอลดค่าโดยสารยาว 10 ปี เร่งก่อสร้างเปิดให้บริการตลอดเส้นทางปี’73
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการฯ รักษาการแทนผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน และเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ตามมาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ของ รฟม.โดยมีบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นผู้ชนะการคัดเลือก
“ผลการคัดเลือกเอกชน สรุปว่า BEM เป็นผู้เสนอผลประโยชน์สุทธิต่อรัฐต่ำที่สุด โดยขอรับเงินสนับสนุนค่าก่อสร้างงานโยธาพร้อมดอกเบี้ยระหว่างการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วงเงินรวม 95,432.04 ล้านบาท และเสนอผลตอบแทนให้ รฟม.เป็นเงินรวม 10,000 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญาร่วมลงทุน นอกจากนี้ คณะกรรมการคัดเลือกฯได้เจรจากับ BEM ได้ผลการเจรจาที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐ และประชาชน โดย BEM เสนอลดอัตราค่าโดยสารเป็นเวลา 10 ปี นับจากเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้าสายสีส้มกว่า 13,000 ล้านบาท” นายวิทยากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ภายหลัง ครม.มีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน และเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม รฟม.มีหนังสือแจ้งให้ BEM มาลงนามในสัญญาร่วมลงทุน ในวันที่ 18 กรกฎาคม เวลา 13.30 น. ที่อาคาร 1 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน
ทั้งนี้ ภายหลังการลงนามสัญญา ทาง รฟม.จะได้ยื่นหนังสือเพื่อแจ้งให้ BEM เริ่มงานก่อสร้าง เบื้องต้น รฟม.มีแผนจะเปิดให้บริการโครงการส่วนตะวันออกก่อนในเดือนพฤษภาคม 2571 และเปิดให้บริการตลอดทั้งเส้นทาง ทั้งส่วนตะวันออกและตะวันตก ในเดือนพฤศจิกายน 2573 อย่างไรก็ตาม รฟม.จะกำกับ และเร่งรัดกระบวนการก่อสร้าง รวมถึงเจรจากับ BEM ให้เปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันออก ได้ก่อนกำหนดการภายในต้นปี 2571