น้ำมันดิบพุ่ง กลับมายืนราคาเหนือ 31.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ทองคำร่วงกว่า 20 เหรียญ

แฟ้มภาพ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (22 ก.พ.) ปรับเพิ่มขึ้นกว่า200จุด หลังตลาดได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น รวมถึงรายงานจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก ที่ออกมาระบุว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศในเดือนม.ค.ปรับตัวดีขึ้น

ทำให้หลังปิดตลาดดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 16,620.66 จุด บวก 228.67 จุด หรือ +1.40% ดัชนี แนสแดค ปิดที่ระดับ 4,570.61 จุด บวก 66.18 จุด หรือ +1.47% และดัชนี เอสแอนด์พี500 ปิดที่ระดับ 1,945.50 จุด บวก 27.72 จุด หรือ +1.45%

ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก ส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ 6.2% ปิดตลาดที่ระดับ 31.48 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกมาคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐ จะปรับตัวลดลงทั้งในปีนี้และปีหน้า ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 1.68 ดอลลาร์ หรือ 5.1% ไปปิดตลาดที่ระดับ 34.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่ราคาทองคำที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก( COMEX) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับลดลง 20.70 ดอลลาร์ หรือ 1.68% ปิดตลาดที่ระดับ 1,210.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ทำให้นักลงทุนพากันเทขายทองคำ หลังราคาปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้ และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image