ผู้ส่งออก เร่งรัฐปิดช่องโหว่ผลิตข้าวไทย ห่วงปี 68 โอกาสส่งออกพลิกบวกเป็นลบ เหลือ7.5 ล้านตัน

ผู้ส่งออก เร่งรัฐปิดช่องโหว่ผลิตข้าวไทย ห่วงอนาคตตีบตัน ปี 68 โอกาสส่งออกพลิกบวกเป็นลบเหลือ 7.5 ล้านตัน

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมการส่งออกข้าวไทยทั้งปี 2567 ถือเป็นปีที่ดี โดยสมาคมฯได้ปรับเพิ่มเป้าส่งออกข้าวทั้งปีจาก 7.5 ล้านตัน เป็น 8.2 ล้านตัน จากครึ่งปีแรกส่งออกแล้วกว่า 5 ล้านตัน ส่วนหนึ่งปีหลังมีโอกาสส่งออกเฉลี่ยต่อเดือน 6.5-7 แสนตัน ส่งออกจะเกิน 8.6 ล้านตัน แต่ที่สมาคมฯกังวลต่อสถานการณ์การส่งออกข้าวไทยในอนาคต จะแข่งขันกับตลาดโลกได้ยากขึ้น เพราะมีหลายปัจจัยที่รุนแรงขึ้น ได้แก่ พันธุ์ข้าวไทยตรงกับความตลาดโลกน้อยกว่าประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะเวียดนามที่เพิ่มปลูกข้าวหอมมะลิ และข้าวขาวพื้นนุ่มเพื่อส่งออกกว่า 80% แต่ไทยยังข้าวพื้นแข็งเป็นหลัก

อีกทั้งผลผลิตต่อไร่ของไทยน้อยกว่าเวียดนามและจีนกว่าครึ่ง โดยเวียดนามผลิตได้ไร่ละ 900 กิโลกรัม ไทยได้ 450 กิโลกรัม ขณะที่จีนพัฒนาได้ถึง 1,000-1,200 กิโลกรัม ค่าเฉลี่ยต้นทุนต่อไร่ของไทยสูงกว่าแต่รายได้ชาวนาไทยน้อยกว่า เมื่อข้าวต้นทุนในประเทศสูงแต่ราคาส่งออกมีทิศทางลง หลังจากภัยแล้งผ่านไปแล้ว ผลผลิตข้าวโลกก็จะเพิ่มขึ้น 5-6% ชาวนาไทยในพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิเริ่้มเพิ่มรอบปลูกข้าวขาวมากขึ้น ซึ่งวิตกว่าจะมีเรื่องปลอมปนชนิดข้าวในอนาคต จะเป็นผลเสียต่อภาพลักษณ์ข้าวหอมมะลิไทย

“ในไม่กี่ปีจากนี้ เชื่อว่าจีนจะกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวโลกรายใหญ่ เพราะจีนมีการพัฒนาพันธ์ข้าวที่ตลาดโลกต้องการ ทั้งข้าวหอม ข้าวพื้นนุ่ม และจีนเป็นประเทศที่มีสต๊อกข้าวสูงถึง 120 ล้านตัน จากในอดีตมีแค่ 30 ล้านตัน จึงมีโอกาสที่จีนจะกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่แทนอินเดีย ขณะที่ไทยจะเจอประเทศคู่แข่งมากขึ้น ไม่แค่อินเดีย เวียดนาม หรือปากีสถาน ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด ไม่ใช่แค่แจกเงินไปเรื่อยๆ ต้องทำให้เราพร้อมทั้งชนิดสินค้าที่แข่งขันได้ ราคาแข่งขันได้ ไม่อย่างนั้นจะส่งออกข้าวไทยจะตีบตันไปเรื่อยๆ จากการประเมินของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดไทยและเวียดนาม จะส่งออกได้ลดลงเหลือประเทศละ 7.5 ล้านตัน จากปีนี้ 8.5 ล้านตัน และ 8.3 ล้านตัน หรือ ลดลง 11.8% และ 9.6% โดยเป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ ส่วนอินเดียส่งได้เพิ่ม 5.9% จาก 17 ล้านตัน เป็น 18 ล้านตัน” ร.ต.ท.เจริญกล่าว

ADVERTISMENT

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวเสริมว่า ภาพรวมปีนี้เชื่อว่าส่งออกข้าวยังไปได้ดี และมีโอกาสที่ข้าวไทยจะส่งออกได้เกิน 8.6 ล้านตัน หรืออาจถึง 9 ล้านตัน หากไม่มีปัจจัยเหล่านี้ คือ

  1. ความผันผวนค่าเงินบาทค่อนข้างสูง สัปดาห์ก่อนอ่อนค่าที่ 37 บาท/เหรียญสหรัฐ ล่าสุด 31 กรกฎาคมแข่งค่า 35.08 บาทต่อเหรียญ อยากให้ค่าบาทนิ่งในอัตรา 36.00-36.50 บาท
  2. ความสามารถในการแข่งขันของไทย ลดลง ทั้งการขาดความหลากหลายของชนิดข้าวที่ตลาดต้องการ ซึ่งเวียดนามมีมากกว่าไทย และจีนกำลังเป็นรายใหญ่ในอนาคต ต้นทุนขนส่งไทยสูงกว่า ส่งผลราคาข้าวไทยแพงกว่าเวียดนาม 250 เหรียญต่อตัน อย่างข้าวหอมมะลิไทย ราคาส่งออก 900-910 เหรียญสหรัฐต่อตัน หอมมะลิเวียดนามส่งออกที่ 650 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือการส่งออกไปอินโดนีเซีย ค่าส่งข้าวไทยแพงกว่าเวียดนาม 5 เหรียญสหรัฐ
  3. ปัญหาผลผลิตข้าวต่อไร่ของชาวนากำลังต่ำสุดในโลก
  4. คาดว่าไตรมาส 4/2567 อินเดียจะผ่อนคลายมาตรการจำกัดส่งออก ที่อาจยกเลิกแต่เก็ยภาษีส่งออกแทน ซึ่งก็ยังถูกกว่าราคาข้าวไทย
  5. แล้งผ่านไปแล้ว แต่ภัยน้ำท่วมก็อาจเกิดขึ้นได้
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image