เตือนอย่าหลงเชื่อ! รัฐบาลเปิดเพจ ทางรัฐ – เงินดิจิทัล ชี้เป็นเพจปลอม โจรออนไลน์

เตือนอย่าหลงเชื่อ! รัฐบาลเปิดเพจ ทางรัฐ – เงินดิจิทัล ชี้เป็นเพจปลอม โจรออนไลน์

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “รัฐบาลเปิดเพจทางรัฐใหม่ ชื่อว่า ทางรัฐ – เงินดิจิทัล” รองลงมาคือเรื่อง “ออมสินให้ยืมก่อน จ่ายคืนทีหลัง ระยะเวลากู้สูงสุด 36 เดือน ผ่านเพจ KLT BNG 31642” โดยขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หวั่นสร้างความสับสน เข้าใจผิด และส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะโฆษกกระทรวง กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม-1 สิงหาคม 2567 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 844,219 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 221 ข้อความ

สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 202 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 16 ข้อความ และผ่านช่องทาง Facebook จำนวน 3 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 167 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 151 เรื่อง

Advertisement

ทั้งนี้ ดีอีได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย

  • กลุ่มที่ 1 : นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 102 เรื่อง
  • กลุ่มที่ 2 : ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน 36 เรื่อง
  • กลุ่มที่ 3 : ภัยพิบัติ จำนวน 2 เรื่อง
  • กลุ่มที่ 4 : เศรษฐกิจ จำนวน 12 เรื่อง
  • กลุ่มที่ 5 : กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ จำนวน 15 เรื่อง

นายเวทางค์กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจในลำดับต้นๆ ในสัปดาห์นี้ พบว่าส่วนใหญ่เป็นข่าวด้านกลุ่มนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความมั่นคง ซึ่งเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับโครงการของรัฐบาล อย่างโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน รองลงมาเป็นข่าวการติดต่อทำธุรกรรมกับหน่วยงานรัฐ และกลุ่มเศรษฐกิจ ตามลำดับ โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่

Advertisement
  • อันดับที่ 1 : เรื่อง รัฐบาลเปิดเพจทางรัฐใหม่ ชื่อว่า ทางรัฐ – เงินดิจิทัล
  • อันดับที่ 2 : เรื่อง ออมสินให้ยืมก่อน จ่ายคืนทีหลัง ระยะเวลากู้สูงสุด 36 เดือน ผ่านเพจ KLT BNG 31642
  • อันดับที่ 3 : เรื่อง คนไทยจ่ายเงินซื้อน้ำมันราคาแพงที่สุดในโลก
  • อันดับที่ 4 : เรื่อง ติดเชื้อไวรัส Parabola จากสุนัขและแมว ทำให้ไขกระดูกไม่สร้างเลือด
  • อันดับที่ 5 : เรื่อง เวลาเข้านอนบ่งบอกสุขภาพในอนาคต
  • อันดับที่ 6 : เรื่อง โฆษณาผลิตภัณฑ์ YesCare เป็นต้อหินมาหลายปี กินแล้วดีขึ้นเรื่อย ๆ
  • อันดับที่ 7 : เรื่อง การบินไทยรับสมัครงาน รายได้ 20,000 บาท ผ่านเพจ Thai Alrways
  • อันดับที่ 8 : เรื่อง ธอส. มอบรัก ช่วยปิดหนี้บ้าน หนี้รถ และหนี้บัตรเครดิต ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์
  • อันดับที่ 9 : เรื่อง หากผู้อื่นรู้เบอร์โทรศัพท์มือถือที่ผูกพร้อมเพย์ ทำให้รู้ยอดเงินในธนาคารได้
  • อันดับที่ 10 : เรื่อง ปัสสาวะกลางคืนแล้วไม่ดื่มน้ำทดแทน ทำให้เกิดภาวะการอุดตันของหัวใจและสมอง

“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ประชาชนสนใจมากที่สุดจาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าส่วนใหญ่เป็นข่าวที่มีผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอันดับ 1 ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของรัฐบาล เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน โดยเป็นการสร้างข่าวปลอม และข้อมูลบิดเบือน กรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลว่า รัฐบาลเปิดเพจทางรัฐใหม่ ชื่อว่า ทางรัฐ – เงินดิจิทัล

กระทรวงดีอีขอชี้แจงว่า เพจดังกล่าวเป็นเพจปลอมที่มิจฉาชีพแอบอ้างใช้โลโก้และชื่อโครงการของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเพจดังกล่าวทั้งสิ้น จึงขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยประชาชนที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเตรียมการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ได้ที่เว็บไซต์ www.digitalwallet.go.th หรือพิมพ์เป็นภาษาไทยว่า www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย หรือสามารถสอบถามผ่านศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (Call Center) สายด่วน โทร 1111 ซึ่งหากหลงเชื่อโดยไม่ตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง อาจทำให้เกิดความเสียหายทั้งในส่วนตัวบุคคล หรือหากมีการแชร์ เผยแพร่ต่อๆ กันไป อาจกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้างได้” นายเวทางค์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ดีอีมีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image