พิชัย สั่งธอส. เพิ่มทุน รองรับนโยบายรัฐปลุกอสังหา ชวนลูกค้าผ่อนยาว 80-85 ปีเงินต้น

พิชัย สั่งธอส. เพิ่มทุน รองรับนโยบายรัฐปลุกอสังหา ชวนลูกค้าร่วมผ่อนยาว 80-85 ปีลดภาระเงินต้น

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบนโยบายให้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เร่งทำแผนการเพิ่มบทบาทการเป็นสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนสินเชื่อ 1 ใน 3 ของภาพรวมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด โดยให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มทุน เพื่อเพิ่มขนาดของ ธอส. ซึ่งรัฐบาลจะเข้าไปช่วยสนับสนุนแหล่งเงินให้ มีเป้าหมายเพื่อให้ ธอส.เป็นเครื่องมือช่วยดูแลภาคอสังหาฯ โดยเฉพาะในช่วงที่ธนาคารพาณิชย์เข้มงวด ไม่ปล่อยสินเชื่อ จะให้ ธอส.มีบทบาทในส่วนนี้แทน

นอกจากนี้ ยังให้ ธอส.ทำแผนระยะยาว ในการหาช่องทางระดมทุนดอกเบี้ยต่ำ มาปล่อยกู้ช่วยผู้ประกอบการ เนื่องจากดอกเบี้ยมีจังหวะขึ้นลง จึงอยากให้ ธอส.เข้ามาช่วยบริหารจุดนี้ หากช่วงที่ดอกเบี้ยถูกสามารถระดมทุนไว้ปล่อยกู้ให้ประชาชนได้ในอนาคต โดยปัจจุบันประเทศไทยมีมูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบ 5 ล้านล้านบาท คิดเป็น 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) หาก ธอส.เพิ่มบทบาทเข้ามา จะทำให้การมูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มเป็น 50% ของจีดีพี

ส่วนแผนระยะสั้น ให้ ธอส.เป็นกลไกสนับสนุนให้ประชาชนมีบ้านเป็นของตัวเองได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปี 2567 ให้เร่งปล่อยสินเชื่อในครึ่งหลังปี 2567 อีก 1.6-1.7 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนต้องช่วยเหลือลดภาระลูกหนี้ โดยเฉพาะคนที่ผ่อนไม่ไหว ให้สามารถรักษาบ้านของตัวเองได้ต่อไป อาทิ ขยายเวลาผ่อนชำระ จากเดิมสูงสุดอายุ 60-70 ปี เป็น 80-85 ปี เพื่อให้มีเงินงวดน้อยลง และมีเงินเหลือไปใช้จ่ายได้มากขึ้น อีกทั้งให้ขยายวงเงินการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็น 5-10 ล้านบาทขึ้นไป จากเดิมที่ ธอส.เน้นปล่อยสินเชื่อวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท

Advertisement

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ลูกค้า ธอส.สามารถเข้ามาติดต่อสาขาทั่วประเทศ เพื่อเข้าร่วมมาตรการการขยายระยะเวลาการชำระหนี้เป็น 80-85 ปี โดยประชาชนทั่วไปจะได้รับการขยายเวลาชำระหนี้ถึง 80 ปี ขณะที่ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจจะได้ถึง 85 ปี ซึ่งการขยายเวลาการผ่อนชำระหนี้เป็น 80-85 ปี จะทำให้ค่างวดของประชาชนลดลง โดยวงเงินกู้ 1 ล้านบาท ค่างวดจะลดลง 500-2,000 บาท จากเดิมที่ต้องชำระงวดละ 4,100 บาท นอกจากนี้ จะช่วยบริหารหนี้เสียของธนาคาร โดยปัจจุบันหนี้เสียของธนาคารอยู่ที่ 5.7% ตั้งเป้าหมายทำให้ลดลงเป็นไม่เกิน 5%

สำหรับแนวทางการเพิ่มทุนของ ธอส. เรื่องนี้เป็นการบ้านที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบให้ธนาคารไปทำแผนพิจารณาในระยะ 5 ปี ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารไม่ได้มีการเพิ่มทุนมานานแล้ว ต้องศึกษาดูถึงความเหมาะสม แต่ขณะเดียวกันจะให้ดูแผนการหาช่องทางระดมทุนใหม่ เพื่อให้หาแหล่งเงินดอกเบี้ยต่ำมาปล่อยกู้ให้ประชาชนมีบ้านได้เพิ่มขึ้น โดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ธอส.ได้เตรียมวงเงินปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย 1.7 แสนล้านบาท โดยจะเน้นการปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก ส่วนกลุ่มราคาที่อยู่อาศัย 5-10 ล้านบาท ได้จัดสรรวงเงินไว้แล้ว 2,000 ล้านบาท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image