ดีแทค ชี้ไทยแลนด์ 4.0 คือ โอกาส ความท้าทาย และความเท่าเทียม

ลาร์ส นอร์ลิ่ง จาก "ดีแทค"

นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวในงานเสวนา “ก้าวที่ 40 มติชน ก้าวคู่ประเทศไทย 4.0” จัดโดยเครือมติชน ที่โรงแรมพูลแมน คิง พาวเวอร์ กรุงเทพฯ ว่า การผลักดันประเทศไทยเข้าสู่ 4.0 ดีแทค มองว่าจะส่งผลต่อประเทศไทยใน 3 มิติด้วยกัน คือ โอกาส ความท้าทาย และความเท่าเทียม ซึ่งประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่จุดแข็งในเรื่องการเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆง่าย ซึ่งจากข้อมูลพบว่าประเทศไทย มีการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย มีการซื้อขายผ่านเฟซบุ๊ก เป็นอันดับ 1 ของโลก รวมทั้งมีอัตราการการเติบโตดิจิทัล แบงกิ้งอย่างรวดเร็ว จึงนับเป็นโอกาสของประเทศไทยอย่างมากที่จะใช้ศักยภาพตรงนี้ในการยกระดับมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศผ่านการเติบโตทางดิจิทัล

นายลาร์ส กล่าวว่า ส่วนความท้าทาย ปัญหาการเข้าถึงและเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ถือเป็นปัญหาที่สำคัญ เนื่องจากปัจจุบันยังมีประชาชนในประเทศกว่า 40% ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต ซึ่งหากประชาชนสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้เติมขึ้น เชื่อว่าจะทำให้ประเทศไทยก้าวกระโดดอย่างแน่นอน นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีปัญหาในเรื่องการจัดสรรคลื่นความถี่ที่ยังน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของระบบโทรคมนาคมในประเทศ ที่ไม่สามารถขยายได้เต็มที่ เรื่องดังกล่าวจึงถือเป็น หน้าทีสำคัญของกสทช.ที่จะต้องว่าแผนในการเปิดประมูลคลื่นความถี่ให้มีความชัดเจนว่าต่อจากนี้ไปประเทศไทยจะมีการเปิดประมูลคลื่นใดบ้าง ประเทศไทยจะสามารถเพิ่มโครงข่ายคลื่นความถี่ได้อีกเท่าไหร่ เพื่อที่ผู้ประกอบการจะได้เตรียมความพร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาโครงข่ายในอนาคต ซึ่งดีแทคก็พร้อมที่จะขยายลงทุน และยืนยันว่าจะยังอยู่ที่ประเทศไทย

นายลาร์ส กล่าวว่า สำหรับความเท่าเทียม ดีแทคเชื่อว่า การพัฒนาไทยแลนด์สู่ 4.0 และการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยโตขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งทำให้สตาร์ตอัพ และธุรกิจใหม่ๆเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันประเทศไทย มีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) กว่า 50% ของผู้ประกอบการทั้งประเทศ การที่มีการนำอินเตอร์เน็ตมาใช้ในธุรกิจจะช่วยให้ธุรกิจขยายตัวได้อีกมาก รวมทั้งเกษตรกรก็ยังสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตด้วย ในการเพิ่มศักยภาพและจัดหาตลาด เป็นการยกระดับฐานะรายได้ให้แก่เกษตรกร ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image