เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (AOT) เปิดเผยถึงการรายงานผลประกอบการระหว่างปีงบประมาณในรอบ 9 เดือนระหว่างเดือนตุลาคม 2566 ถึงเดือนมิถุนายน 2567 ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) AOT ว่า มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 14,910.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,551.41 ล้านบาท คิดเป็น178.23% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม 50,764.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.32%
ซึ่งรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น 17,567.91 ล้านบาท คิดเป็น 53.59% แบ่งเป็น รายได้เกี่ยวกับกิจการการบิน มีจํานวน 23,268.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,310.63 ล้านบาท คิดเป็น 45.81% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินจํานวน 27,078.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,257.28 ล้านบาท คิดเป็น60.98%
เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวม 29,580.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,651.46 ล้านบาท หรือ 23.62%
นายกีรติ กล่าวว่า การเติบโตของรายได้และปริมาณผู้โดยสารได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ประกอบกับภาครัฐมีมาตรการต่างๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ปริมาณการจราจรทางอากาศของ AOT ในรอบ 9 เดือน มีจํานวนเที่ยวบินรวม 548,514 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 15.51%
เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 308,500 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 240,014 เที่ยวบิน ขณะที่จำนวนผู้โดยสารรวมมีทั้งหมด 90.14 ล้านคน เพิ่มขึ้น 21.17%
เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 54.60 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 35.54 ล้านคน
นายกีรติ เผยว่า ที่ผ่านมา AOT ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกี่ยวกับระบบบริการผู้โดยสารสมัยใหม่เข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการผู้โดยสารทั้ง 6 ท่าอากาศยาน ซึ่งสามารถเพิ่มคุณภาพงานบริการและลดระยะเวลา รอคอยของผู้โดยสารได้ดีกว่ามาตรฐานที่กำหนด ซึ่งปัจจุบันระยะเวลาการใช้บริการในกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 26 นาทีต่อคน (จากเป้าหมายเดิมที่กําหนดไว้ 40 นาทีต่อคน) ส่วนกระบวนการผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 37 นาทีต่อคน (จากเป้าหมายเดิมที่กําหนดไว้ 55 นาทีต่อคน)
ในขณะที่กระบวนการผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 15 นาทีต่อคน (จากเป้าหมายเดิมที่กําหนดไว้ 35 นาทีต่อคน) และกระบวนการผู้โดยสารขาออกภายในประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 25 นาทีต่อคน (จากเป้าหมายเดิมที่กําหนดไว้ 40 นาทีต่อคน)
นอกจากนี้ นายกีรติ กล่าวว่า AOT ยังได้จัดแคมเปญส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวไทยผ่านโครงการกระตุ้นให้สายการบินเข้ามาเปิดเส้นทางการบินใหม่ (New Routes to Airlines) ณ ท่าอากาศยานของ AOT ทั้ง 6 แห่ง เพื่อเป็นการส่งเสริมการการสร้างเครือข่ายทางด้านการบินและเป็นปัจจัยกระตุ้นให้สายการบินตัดสินใจเปิดให้บริการเส้นทางการบินใหม่
รวมถึงให้ส่วนลดกับสายการบินที่ทําการบินในเส้นทางการบินใหม่ทั้งส่วนลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยานค่าบริการที่เก็บอากาศยาน และค่าบริการใช้สะพานเทียบเครื่องบินอีกด้วย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่