ที่โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเปิดงาน “Institutional Investors Forrum : Thailand’s Investment Governance Code (I Code)” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่าในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 กระทรวงการคลังจะเสนอประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาประเด็นการให้สิทธิพิเศษทางภาษีกับบุคคลที่ทำงานในโครงการลงทุนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยให้สิทธิพนักงานหรือผู้บริหารที่ทำงานในอีอีซีสามารถเลือกได้ว่าจะเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราปกติ ซึ่งเรียกว่าอัตราก้าวหน้า คือ 0-35% ซึ่งเมื่อหักลดหย่อนต่างๆ แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 28% หรือเลือกเสียอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบคงที่ (Gross) ที่อัตรา 17% คือไม่สามารถนำรายการอื่นมาลดหย่อนได้อีก
ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ดังกล่าวมีระยะเวลาที่ได้รับสิทธิเท่ากับระยะเวลาที่ธุรกิจได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เช่น บีโอไอให้สิทธิประโยชน์ 13 ปี บุคคลที่ทำงานในหน่วยงานอยู่ในพื้นที่นั้นก็จะได้รับสิทธิ 13 ปีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การให้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวจะให้เฉพาะบุคลากรชาวไทยและชาวต่างประเทศที่ทำงานในธุรกิจดังนี้คือ 1.ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ 2.เป็นกิจการที่อยู่ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และ 3.สำนักงานใหญ่ที่จ่ายเงินต้องตั้งอยู่ในพื้นที่อีอีซีเท่านั้น เพื่อเป็นการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เนื่องจาก ที่ผ่านมาเมื่อไปเชิญชวนธุรกิจต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในไทยจะมีคำถามถึงอัตราภาษีบุคคลธรรมดาของผู้บริหาร แต่หลังจากมีแนวคิดดังกล่าวจึงได้เสนอให้บริษัทขนาดใหญ่ที่สนใจมาลงทุนทราบ และพบว่าทางบริษัทต่างชาติให้ความสนใจ และระบุว่าหากรัฐบาลดำเนินการก็จะตัดสินใจมาลงทุนทันที
“เรื่องอัตราภาษีบุคคลธรรมดาเป็นตัวช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ว่าจะเข้ามาลงทุนหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาจะมีคำถามลักษณะนี้มาตลอด ในที่สุดหลายบริษัทก็ตัดสินใจไปลงทุนที่ประเทศเพื่อนบ้านแทนเพราะอัตราภาษีถูกกว่า ซึ่งอัตราภาษีบุคคลธรรมดาแบบคงที่ที่ 17% นั้น เป็นระดับที่ทำให้ไทยสามารถแข่งขันได้ในภูมิภาค โดยสิงคโปร์คิดอัตราภาษีที่ 20% ขณะที่ฮ่องกงคิดภาษีบุคคลธรรมดาแบบอัตราก้าวหน้าสูงสุดที่ 17% ผู้ที่เคยจ่ายในระดับ 35% ก็จะเลือกใช้สิทธิเพราะประหยัดภาษี แต่ผู้ที่เคยจ่ายภาษีเพียง 15% ก็คงไม่เลือกใช้สิทธิ” นายอภิศักดิ์กล่าว
นายอภิศักดิ์กล่าวอีกว่า ประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับนอกจากส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนแล้ว ยังทำให้เก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น เพราะในอดีตผู้บริหารชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอาจได้รับเงินเดือน 1 ล้านบาท แต่มาจ่ายที่ประเทศไทยเพียง 2-3 แสนบาท ที่เหลือจ่ายในประเทศที่มีภาษีต่ำกว่า ดังนั้น การให้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวจะทำให้ไทยเก็บภาษีได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สิทธิประโยชน์ทางภาษีในครั้งนี้ เป็นคนละส่วนกับที่ก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังได้ลดอัตราภาษีบุคคลธรรมดาเหลือ 0% ให้กับผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่มีความสามารถตามความต้องการของอุตสาหกรรมไทยที่เข้ามาทำงานในอีอีซี
