เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงเข้ม ช่วงวงเวียนใหญ่ – มหาชัย กรุงเทพมหานคร โดย จากการประชุมบอร์ดครั้งก่อนที่ทางคณะกรรมการได้มีการหมอบหมายให้ทางการรถไฟฯไปหารือกับทาง สํานักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เรื่องการขออนุมัติสั่งจ้างที่ปรึกษา เพื่อทบทวนความเหมาะสม รถไฟฟ้าสายสีแดง วงเวียนใหญ่-มหาชัย นั้น
นายอนันต์ เผยว่า ทางการรถไฟฯได้ส่งเรื่องไปยัง สนข. เรียบร้อยแล้ว โดยทาง สนข. ชี้แจงกลับมาที่การรถไฟฯว่าขณะนี้โครงการดังกล่าว ทาง สนข. อยู่ในระหว่างรอการพิจารณากลับจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบการปรับเปลี่ยนรถไฟสายสีแดง จากเดิม หัวลำโพง-มหาชัย เป็น วงเวียนใหญ่-มหาชัย โดยทางสนข.ได้ดำเนินการส่งเรื่องไปยัง คจร. ตั้งแต่ เดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ระหว่างการรอบรรจุเข้าวาระประชุม
รถไฟฟ้าสายสีแดง
ทั้งนี้ นายอนันต์ กล่าวว่า ข้อมูลที่ทางสนข. นำเสนอต่อ คจร. น้้น คือ การที่ยังไม่ต้องเริ่มดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เส้นทาง หัวลำโพง -มหาชัย เนื่องจากมีอุปสรรคในการก่อสร้างที่มีมูลค่าสูงและ การสร้างสะพานข้ามผ่านเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ดังนั้นในที่ประชุมบอร์ดการรถไฟฯล่าสุดจึงมีมติให้รอ รอผลการพิจารณาของ คจร. ก่อน จึงจะสามารถดำเนินการโครงการเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของทาง คจร. ได้ โดยหลังจากที่ผลการพิจารณาจาก คจร. ผ่าน ก็จะดำเนินการสั่งจ้างที่ปรึกษาเป็นขั้นตอนต่อไป
สำหรับช่วงโครงการรถไฟส่วนต่อขยายสายสีแดง ช่วงหัวลำโพง-วงเวียนใหญ่-มหาชัย ระยะทางรวม 37 กิโลเมตรมูลค่าประมาณ 53,064 ล้านบาท และเส้นทางดังกล่าวอยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (M-Map) ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2553-2572) จำนวน 12 เส้นทาง

เบื้องต้น รฟท. มีแผนดำเนินการช่วงวงเวียนใหญ่-มหาชัย ระยะทางประมาณ 33 กม. และขณะนี้จะมีการปรับ ส่วนเส้นทางช่วงหัวลำโพง-วงเวียนใหญ่ ระยะทางอีกประมาณ 4 กม. เนื่องจากช่วงเส้นทางนี้ยังคงติดปัญหาโดยเฉพาะช่วงฝั่งที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอาจต้องปรับแผนเปลี่ยนเป็นการสร้างอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา จากเดิมที่จะสร้างเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
