สินค้าจีนทุบเอสเอ็มอีไทย โจทย์ร้อนรอ ‘รบ.แพทองธาร’ แก้ด่วน!!

สินค้าจีนทุบเอสเอ็มอีไทย โจทย์ร้อนรอ‘รบ.แพทองธาร’แก้ด่วน!!

เหตุการณ์ฟ้าผ่าทางการเมืองไทย นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี จาก เศรษฐา ทวีสิน เป็น แพทองธาร ชินวัตร พร้อมนับถอยหลังการฟอร์มทีมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จากนายกฯแพทองธารในเร็วๆ นี้

ในมุมมองเศรษฐกิจ หลายฝ่ายต่างคาดหวังผลงานทีมเศรษฐกิจจากนายกฯแพทองธาร ในหลากหลายมิติ หนึ่งในปัญหาร้อนที่รอแก้ไขคือ สินค้าจีนด้อยคุณภาพที่กำลังทะลักประเทศไทย ทุบทำลายเอสเอ็มอีในเวลานี้

น่าจับตาว่า นายกฯแพทองธาร จะเดินหน้าแก้ปัญหานี้อย่างไร

สำหรับประเด็นสินค้าจีนด้อยคุณภาพ เป็นปัญหาที่ภาคเอกชน โดยเฉพาะสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สะท้อนปัญหา พร้อมเรียกร้องให้แก้ไขมาตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา

ADVERTISMENT

ขณะที่ฝ่ายภาครัฐก็พร้อมทำงานแก้ปัญหา หนึ่งในนั้นคือกระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ที่ดำเนินการเต็มที่

ล่าสุดกับกรณี TEMU แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีน ที่กำลังรุกคืบไทย จนสร้างความกังวลให้กับคนไทย ทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี

ADVERTISMENT

ตัวอย่างสินค้าที่มีการจำหน่ายบนแพลตฟอร์มดังกล่าวและอาจเข้าข่ายผลิตภัณฑ์มาตรฐานบังคับ ได้แก่ หมวกนิรภัยสำหรับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ (มอก.369-2557), ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ (มอก.341-2543), ยางในรถจักรยานยนต์ (มอก.683-2562), เข็มขัดนิรภัยสำหรับรถยนต์ (มอก.721-2551), หัวนมยางดูดเล่น (มอก.1025-2562), ของเล่น (เฉพาะด้านความปลอดภัย) (มอก.685 เล่ม 1-2562)

ฝักบัวอาบน้ำ (เฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม : การประหยัดน้ำ) (มอก.2066-2552), ฟิล์มยืดหุ้มห่ออาหาร (มอก.1136-2559), กระทะเทฟลอน ภาชนะและเครื่องใช้โลหะเคลือบฟลูออโรพอลิเมอร์สำหรับอาหาร (มอก.2622-2556), หลอดไฟ LED (หลอดแอลอีดีมีบัลลาสต์ในตัวสำหรับการให้แสงสว่างทั่วไป ด้วยแรงดันไฟฟ้ามากกว่า 50V-คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย) (มอก.2780-2562) (บริภัณฑ์ส่องสว่างและบริภัณฑ์ที่คล้ายกัน : ขีดจำกัดสัญญาณรบกวนวิทยุ) (มอก.1955-2551), ปลั๊กพ่วง (เต้าเสียบและเต้ารับสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและงานทั่วไปที่มีจุดประสงค์คล้ายกัน : ชุดสายพ่วง) (มอก.2432-2555), Adapter บริภัณฑ์เสียง วีดิทัศน์ บริภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เล่ม 1 ข้อกำหนดด้านความปลอดภัย (มอก.62368 เล่ม 1-2563) เป็นต้น

ประเด็นนี้ พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า จากกรณีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามชาติเข้ามาบุกตลาดสินค้าไทย ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจเอสเอ็มอี รวมถึงความไม่ปลอดภัยของประชาชนจากการใช้สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน

พร้อมย้ำว่า กระทรวงไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และเร่งดำเนินการตามภารกิจ Quick win เพื่อสกัดกั้นสินค้าไม่ได้มาตรฐานเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าที่ สมอ.ควบคุม ทั้ง 144 รายการ ที่ สมอ.สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการของกระทรวงอุตสาหกรรมยังไม่ครอบคลุมสินค้าที่มีการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีจำนวนกว่า 1,000 รายการ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนร่วมดำเนินการควบคุมและกำกับติดตาม ทั้งกระทรวงการคลังกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลฯ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ไม่มีคุณภาพหรือเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค

รวมทั้งพิจารณาให้มีการจัดเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขัน โดยการกำหนดนโยบายการจัดเก็บภาษีที่เหมาะสมสำหรับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามชาติ เพื่อให้บริษัทเหล่านี้เสียภาษีอย่างถูกต้องและไม่เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ

“การซื้อของดีราคาถูก ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ของต้องมีคุณภาพด้วย อันไหนมีมาตรฐาน ก็ต้องออกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. มาดูแลประชาชน โดยสินค้าจีนทะลักเข้าไทย เราก็ต้องอยู่ให้ได้ และจำเป็นที่ต้องรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไว้ด้วย” พิมพ์ภัทราระบุ

ขณะที่ วันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ระบุว่า จากข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สมอ.ได้เร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งภารกิจ Quick win กวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด และทางออนไลน์

ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 จนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ยึดอายัดสินค้าไม่ได้มาตรฐานเป็นมูลค่า 322,420,097 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นสินค้าไม่ได้มาตรฐานที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน มูลค่า 92,767,374 บาท คิดเป็น 29% จากทั้งหมด

สมอ.ยังกำหนดมาตรฐานสินค้าเพิ่มในปีนี้อีกกว่า 1,400 มาตรฐาน จากเดิมประกาศใช้แล้วจำนวน 2,722 มาตรฐาน และอยู่ระหว่างดำเนินการประกาศเป็นสินค้าควบคุมอีกจำนวน 52 มาตรฐาน เพิ่มเติมจากเดิมจำนวน 144 มาตรฐาน ครอบคลุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

เช่น ภาชนะและเครื่องใช้สแตนเลส กระทะ/ตะหลิว/หม้อ/ช้อน/ส้อม/ปิ่นโต/ถาดหลุม ถุงพลาสติกสำหรับบรรจุอาหาร ถุงพลาสติกบรรจุอาหารสำหรับอุ่นในไมโครเวฟ เตาหุงต้มในครัวเรือนใช้กับก๊าซปิโตรเลียมเหลว ท่อยางและท่อพลาสติกสำหรับใช้กับก๊าซหุงต้ม ฟิล์มติดกระจกสำหรับรถยนต์ ภาชนะพลาสติกสำหรับบรรจุน้ำบริโภค ที่รองนั่งไฟฟ้าสำหรับโถส้วมนั่งราบ ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก และแผงโซลาร์เซลล์ เป็นต้น

นอกจากนี้ สมอ.ยังมีแนวทางการดำเนินงานเพื่อป้องกันการเข้าถึงแพลตฟอร์มออนไลน์รายใหม่เพิ่มเติมดังนี้ 1.เร่งทำความเข้าใจและชี้แจงข้อกฎหมายกับผู้ประกอบการที่ให้บริการขนส่งสินค้า และให้บริการดำเนินพิธีการศุลกากร (Shipping) เพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน 2.สร้างความตระหนักให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าที่มีเครื่องหมายมาตรฐานบนแพลตฟอร์มออนไลน์

3.บูรณาการการทำงานร่วมกับกรมศุลกากร เพื่อการนำเข้าสินค้าที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานจากแพลตฟอร์มออนไลน์ 4.บูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เกี่ยวกับการควบคุมแพลตฟอร์มออนไลน์ และ 5.บูรณาการการทำงานกับสภาองค์กรของผู้บริโภค เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างยั่งยืน

ส่วนเทกแอ๊กชั่นจาก นายกฯแพทองธาร จะเป็นอย่างไร รอติดตาม!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image