สคฝ.เผยแบงก์พาณิชย์แข็งแกร่งฟันกำไรเฉียด 2 แสนล. -ผู้ฝากเงินไม่กังวลลดความคุ้มครองเหลือ 15 ล้าน

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะประธานกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก(สคฝ.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของสถาบันคุ้มครองเงินฝากในปี 2559 ที่ผ่านมา และแผนการดำเนินงานในปี 2560 ว่า ขณะนี้ระบบสถาบันการเงินยังคงมีเสถียรภาพอยู่ในเกณฑ์ดี จนถึงสิ้นปี 2559 สถาบันการเงินทั้งระบบมีฐานะเงินกองทุนแข็งแกร่ง และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการจัดสรรกำไรเป็นสำคัญ โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) เพิ่มขึ้นเป็น 18.05% จาก 17.44% ในปีก่อน และอัตราส่วนเงินกองทุน ชั้นที่ 1 (Tier-1 Ratio) เพิ่มขึ้นเป็น 15.08% จากร้อยละ 14.60% ในปีก่อน สำหรับการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบเพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (Liquidity Coverage Ratio: LCR) ตามเกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 175.19% โดยธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งมี LCR สูงกว่าเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนดที่ 60% อยู่มาก

นายกฤษฎา กล่าวว่า สำหรับสินเชื่อรวมของระบบสถาบันการเงิน (รวมสินเชื่อระหว่างธนาคารและตลาดเงิน) ณ สิ้นปี 2559 มีจำนวน 13.64 ล้านล้านบาท โดยขยายตัวในอัตราเพิ่มขึ้นที่ 3.11% เทียบกับปี 2558 ที่ขยายตัวได้ 2.71% สำหรับสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL) อยู่ที่ 2.83% จาก 2.56% ในปีก่อน ขณะที่เงินสำรองสินเชื่อยังอยู่ในระดับสูง คิดเป็น 136.47% ของสินเชื่อที่ ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ดังนั้น แม้ว่าสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น แต่สถาบันการเงินได้มีการตั้งสำรองสำหรับสินเชื่อเพิ่มขึ้นเพียงพอที่จะรองรับคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลง

นายกฤษฎา กล่าวว่า สำหรับเงินฝาก ณ สิ้นปี 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 12.61 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.44% จากสิ้นปี 2558 และในปี 2559 สถาบันการเงินมีกำไรสุทธิจำนวน 1.99 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ประมาณ 3.60% เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นจากการบริหารจัดการต้นทุนดอกเบี้ย

“หากวิเคราะห์สถาบันการเงินในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ก็มีเสถียรภาพอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะนี้เงินกองทุนคุ้มครองเงินฝากมีถึง 1.16 แสนล้านบาท และมีเงินไหลเข้าจากเงินนำส่งของธนาคารพาณิชย์จากเงินฝาก 0.01% ปีละ 1,000 ล้านบาท และจากดอกผลของเงินกองทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับมือหากเกิดภาวะวิกฤตได้ เงินในระดับดังกล่าวสามารถดูแลกรณีแบงก์ขนาดกลางเกิดปัญหาขึ้นมาได้เกือบทั้งหมด โดยมีการประเมินความเหมาะสมวงเงินคุ้มครองเงินฝากควรอยู่เท่าใดมองไว้ที่กว่า 1 แสนล้านบาทแต่ไม่เกิน 2 แสนล้านบาท”นายกฤษฎา กล่าว

Advertisement

นายสาทร โตโพธิ์ไทย ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก(สคฝ.) กล่าวว่า สิ้นปี 2559 สถาบันการเงินที่อยู่ในความคุ้มครองของสถาบันคุ้มครองเงินฝากมีจำนวน 35 แห่ง มีจำนวนผู้ฝากเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองเงินฝากรวมทั้งสิ้นประมาณ 70.93 ล้านราย หรือคิดเป็นจำนวนเงินฝากในระบบกว่า 11.9 ล้านล้านบาท โดยเงินฝากที่อยู่ในวงเงินคุ้มครองไม่เกิน 15 ล้านบาท ต่อรายผู้ฝากต่อสถาบันการเงิน จำนวน 70.85 ล้านราย หรือคิดเป็น 99.90% ของผู้ฝากเงินทั้งระบบ อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงวงเงินคุ้มครองจาก 25 ล้านบาท เป็น 15 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2559 ไม่มีสัญญาณการโยกย้ายเงินฝากออกจากระบบสถาบันการเงิน คาดว่าในปีนี้จำนวนบัญชีเงินฝากจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5 หมื่นบัญชี/ราย ถือว่าเป็นระดับปกติที่เพิ่มขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image