‘ค้าภายใน’ ดึงผู้ประกอบการ-ร้านค้า ลดราคาสินค้าชำระล้าง-ซ่อมบ้าน หลังน้ำลด เผยราคาอาหารสดแนวโน้มอ่อนตัว
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯได้มีการประสานผู้ประกอบการและร้านจำหน่ายสินค้าเพื่อการซ่อมแซม และทำความสะอาดบ้านพักหรืออาคารต่างๆ ในราคาประหยัด และเตรียมปริมาณให้เพียงพอกับความต้องการ โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม เมื่อหลังน้ำลดจะมีความต้องการสูงกว่าปกติ พร้อมกันนี้จะมีการเฝ้าระวังและติดตามพื้นที่น้ำท่วมหรือเสี่ยงเจอน้ำท่วม ในการดูแลสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ ให้เพียงพอและไม่มีการฉวยโอกาสปรับราคาขายสูงเกินจริง
นายวัฒนศักย์กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรสัปดาห์นี้ 26-30 สิงหาคม เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน พืชหลักส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น โดยกลุ่มข้าวราคาดี ข้าวหอมมะลิ 16,050 บาทต่อตัน ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 15,800 บาทต่อตัน ข้าวหอมปทุมธานี 15,400 บาทต่อตัน ข้าวเจ้า 11,300 บาทต่อตัน ข้าวเหนียวเมล็ดยาว 13,900 บาทต่อตัน มันสำปะหลัง ราคา 2.95 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (ความชื้น 14.5%) ราคาอยู่ที่ 11.40 บาทต่อ กก. ปาล์มน้ำมันราคาอยู่ที่ 6.50 บาทต่อ กก.
สำหรับกลุ่มเนื้อสัตว์ราคาทรงตัวและแนวโน้มลดลง อาทิ หมูเนื้อแดงเฉลี่ย กก.ละ 137.44 บาท ไก่เนื้อน่องติดสะโพก เฉลี่ย กก.ละ 82 บาท เนื้อน่อง เฉลี่ย กก.ละ 83.38 บาท เนื้อสะโพกเฉลี่ย กก.ละ 87.31 บาท และเนื้ออกเฉลี่ย กก.ละ 84.75 บาท ส่วนไข่ไก่เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 4.23 บาท ใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนสัตว์น้ำ ราคาทรงตัว โดยปลานิล กก.ละ 73.50 บาท ปลาทับทิม 107 บาท ปลาดุก 76.30 บาท กุ้งขาว (70 ตัว/กก.) กก.ละ 187 บาท
สำหรับผักสด บางชนิดราคาเพิ่มขึ้น เพราะได้รับผลกระทบจากฝนตกและน้ำท่วม โดยเฉพาะผักใบที่มีความอ่อนไหวมาก อย่างต้นหอม-ผักชี แต่ปริมาณมีเพียงพอ สามารถดึงผลผลิตจากแหล่งผลิตอื่นเข้าไปทดแทนได้ โดยผักคะน้า กก.ละ 41.60 บาท ถั่วฝักยาว กก.ละ 45 บาท กะหล่ำปลี กก.ละ 33.60 บาท กวางตุ้ง กก.ละ 33.30 บาท ผักกาดขาว กก.ละ 39.50 บาท ผักบุ้งจีน กก.ละ 34.20 บาท ต้นหอม กก.ละ 109.50 บาท ผักชี กก.ละ 123 พริกขี้หนูจินดา 77.70 บาท มะนาว (เบอร์ 1-2) อยู่ที่ 3.75 บาท โดยจากนี้มีแนวโน้มลดลง
สำหรับกลุ่มผลไม้ ราคาอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยผลไม้ภาคตะวันออก ทุเรียน มังคุด เงาะโรงเรียน และลองกอง ออกสู่ตลาดหมดแล้ว ผลไม้ภาคใต้ ทุเรียน ราคาดีมาก มังคุดก็ราคาดี และอีกไม่นานก็จะหมดฤดูกาลผลไม้ภาคใต้ จากนั้นจะเป็นผลผลิตลองกอง ที่จะออกสู่ตลาด ปีนี้ผลผลิตจะมีปริมาณ 4 หมื่นตัน จากปีก่อนประมาณ 6 หมื่นตันหรือ ลดลง 30-40% เพราะเกษตรกรโค่นลองกอง และหันมาปลูกทุเรียนแทนด้วยราคาทุเรียนที่ดีกว่า โดยคาดว่าราคาจะดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งปีก่อนราคาเบอร์ 1 กก.ละ 40 บาท เบอร์รอง กก.ละ 25 บาท พร้อมกันนี้ ส้มโอ จะเริ่มออกตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ตลาดยังไปได้ดี หากหมดผลไม้ 2 ชนิดซึ่งหมดฤดูกาลมาตรการเฝ้าระวังพิเศษ จะถือเป็นปีทองของผลไม้อีกปีหนึ่ง ที่เกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ทุกชนิด ขายผลผลิตได้ราคาดีกว่าปีที่แล้ว
