ผู้เขียน | นายพล |
---|
ปอร์เช่ ไทคานน์ พลังถ่าน 6.69 ล้าน
ในตลาดรถหรู ปอร์เช่ (Porsche) ถือว่าเป็นค่ายรถยนต์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะสามารถสลัดคราบความเป็นรถซุปเปอร์คาร์ กลายมาเป็นรถหรูทรงสมรรถนะ แย่งส่วนแบ่งการตลาดมาจากกลุ่มรถหรูได้เป็นกอบเป็นกำ
หมัดเด็ดของปอร์เช่ อยู่ที่การผลิตรถรุ่นใหม่ออกมาเอาใจกลุ่มลูกค้ากว้างขึ้น ทั้งรถประเภทเอสยูวี รถเก๋ง เน้นความสะดวกสบายมากขึ้น เมื่อมาผสานกับจุดเด่นด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่มาอย่างต่อเนื่อง
แม้กระทั่งรถยนต์ไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่ หรือ บีอีวี ที่คนสมัยก่อนเรียกแบตเตอรี่ว่าถ่านไฟ เหมือนถ่านไฟฉาย ปอร์เช่ก็พัฒนาออกมาหลายรุ่นแล้วเช่นกัน ทำให้มียอดขายทั่วโลกขยับขึ้นมาได้อย่างน่าตื่นเต้น
ล่าสุด ปอร์เช่รุกไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัว ไทคานน์ (Taycan) รุ่นใหม่ งานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่ Pasir Panjang Power Station สถานีไฟฟ้าในประเทศสิงคโปร์ เมื่อเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของ ไทคานน์ เทอร์โบ เอส รุ่น เซเลสเชียล เจด (Taycan Turbo S Celestial Jade) รถยนต์พิเศษ ออกแบบโดย Sonderwunsch เป็นความร่วมมือระหว่าง ปอร์เช่ เอ็กซ์คลูซีฟ เมนูแฟกทัวร์ (Porsche Exclusive Manufaktur) และปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก (Porsche Asia Pacific) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับแต่งรถยนต์ไทคานน์ เปิดตัวรุ่นใหม่ถึง 7 รุ่น มีให้เลือก 2 ประเภทตัวถัง ได้แก่ ไทคานน์ สปอร์ต ซีดาน และ ไทคานน์ ครอส ทัวริสโม ผู้เชี่ยวชาญจากทีมงานสไตล์ ปอร์เช่ (Style Porsche) ได้ปรับปรุงการออกแบบของไทคานน์ ด้วยการเสริมดีไซน์ใหม่ที่ส่วนหน้าและส่วนท้าย รวมถึงไฟหน้าและไฟท้ายใหม่
ไฟหน้ารุ่นใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยี เอชดี แมททริกซ์ ความละเอียดสูง และแสดงกราฟิก 4 จุดอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ในเวลากลางคืน โลโก้ Porsche บนแถบไฟท้ายมีดีไซน์แบบ 3 มิติเหมือนกระจก เป็นครั้งแรกที่เจ้าของรถสามารถเลือกติดตั้งไฟแบบส่องสว่างได้ มาพร้อมกับแอนิเมชั่นสำหรับการต้อนรับและร่ำลาได้
มอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ติดตั้งที่เพลาหลัง สร้างพละกำลังได้มากกว่ารุ่นก่อนถึง 80 กิโลวัตต์ แต่มีน้ำหนักเบากว่าถึง 10.4 กิโลกรัม ส่งผลให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลา 4.8 วินาที เร็วกว่ารุ่นก่อน 0.6 วินาที และไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Taycan Turbo S) ใช้เวลาเพียง 2.4 วินาที เร็วกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้าถึง 0.4 วินาที
บางรุ่นมาพร้อมกับฟังก์ชั่น พุช-ทู-พาส (Push-to-Pass) ส่วนหนึ่งของแพคเกจ สปอร์ต โครโน (Sport Chrono) ฟังก์ชั่นนี้จะเพิ่มกำลังไฟฟ้าชั่วคราวสูงสุดถึง 70 กิโลวัตต์ ขึ้นอยู่กับรุ่นของรถยนต์ สามารถกดปุ่มเพื่อใช้งานฟังก์ชั่น “Push-to-Pass” ได้นาน 10 วินาที จะช่วยเพิ่มความสนุกในการขับขี่ ทำให้สามารถเร่งแซงรถได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
ไทคานน์ รุ่นใหม่ที่ใช้แบตเตอรี่ เพอร์ฟอร์แมนซ์ แบตเตอรี่ พลัส (Performance Battery Plus) ขนาดใหญ่ขึ้น มีกำลังไฟฟ้ารวม 105 กิโลวัตต์ชั่วโมง เพิ่มขึ้นจาก 93 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้ากลับคืนสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 290 กิโลวัตต์เป็น 400 กิโลวัตต์
ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 89 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางการขับขี่สูงสุด 566 กิโลเมตร (WLTP) มากกว่ารุ่นก่อนหน้าที่ใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ หากใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น ระยะทางการขับขี่ของไทคานน์จะเพิ่มขึ้นเป็น 678 กิโลเมตร เพิ่มขึ้น 35%
ไทคานน์รุ่นใหม่ใช้เวลาชาร์จไฟได้เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า สามารถชาร์จไฟได้สูงสุด 320 กิโลวัตต์ที่สถานีชาร์จไฟกระแสตรงพลังสูง (DC) นอกจากนี้ ประสิทธิภาพการชาร์จสูงสุดยังสามารถทำได้ในช่วงอุณหภูมิการทำงานกว้างขึ้น ภายใต้สภาวะหลากหลาย ทำให้สามารถชาร์จไฟจาก 10% ถึง 80% ได้ภายใน 18 นาที แม้จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น
ทุกคันมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลมปรับอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สามารถสั่งซื้อระบบกันสะเทือน ปอร์เช่ แอ๊กทีฟ ไรด์ (Porsche Active Ride) ได้เพิ่มสำหรับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ
อุปกรณ์ตกแต่งภายในมาตรฐาน เช่น ปอร์เช่ อินเทลลิเจท์ เรนจ์ เมเนเจอร์ (Porsche Intelligent Range Manager-PIRM) เบาะนั่งปรับได้ 14 ทิศทาง สวิตช์โหมดการขับขี่และพวงมาลับพาวเวอร์สเตียริ่งพลัส (Power Steering Plus) ระบบไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร พาร์คแอสซิสต์ (ParkAssist) รวมถึงระบบช่วยเหลือการจอดรถแบบแอ๊กทีฟ เซอร์ราวด์ วิว วิธ แอ๊กทีฟ พาร์คกิ้ง ซัพพอร์ต (Surround View with Active Parking Support) ระบบควบคุมอุณหภูมิ 4 โซน ระบบเสียง BOSE และล้อขนาด 20 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้งหมด
เป็นครั้งแรกในไทคานน์ เทอร์โบ เอส รุ่น เซเลสเชียล เจด ปอร์เช่ได้ผสมสีที่มีเอฟเฟ็กต์ โครมาแฟลร์ (ChromaFlair) สองชนิดเข้าด้วยกัน การเตรียมและดำเนินการในขั้นตอนนี้ซับซ้อนและใช้เวลามาก ใช้เวลาพัฒนาประมาณหนึ่งปี สำหรับการทาสีต้องทำด้วยมือโดยเฉพาะ และใช้เวลาประมาณ 80 ชั่วโมง
เม็ดสี Chromaflair ประกอบด้วย เกล็ด บางมาก จะเปลี่ยนสีได้ขึ้นอยู่กับมุมที่มองของแต่ละคน เกล็ดเหล่านี้ประกอบด้วยแกนกลางทึบแสงและสะท้อนแสงของอะลูมิเนียม ล้อมรอบด้วยชั้นที่มีลักษณะคล้ายแก้ว ชั้นโปร่งใสนั้นมีสีแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความหนา โดยรวมแล้วเกล็ดเหล่านี้มีความหนาเพียง 1 ไมโครเมตร เท่านั้น เทียบกับเส้นผมของมนุษย์หนากว่า 50 เท่า สีแบบไล่เฉดนี้ไม่เพียงแต่พบในตัวถังของไทคานน์ Sonderwunsch เท่านั้น แต่ยังพบได้บนป้ายกำกับรุ่นด้านหลัง โลโก้ “Electric” ที่ด้านข้าง และฝาครอบกุญแจอีกด้วย
นอกจากสีภายนอกเทคนิค Chromaflair แล้ว รถยนต์ที่เป็นหนึ่งเดียวคันนี้ยังมีโลโก้ “LongMa” ออกแบบมาเป็นพิเศษในหลายตำแหน่ง เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่วัฒนธรรมเอเชีย “LongMa” เป็นสัญลักษณ์ของพลัง ความแข็งแกร่ง และความเป็นสิริมงคล มีหัวของมังกร (long) และลำตัวของม้า (ma) มีความหมายยิ่งขึ้นเมื่อตรงกับปีมังกรในปี 2024
และไทคานน์มีที่มาจากคำตุรกี 2 คำที่หมายถึง “จิตวิญญาณของม้าหนุ่มที่มีชีวิตชีวา” โลโก้สามารถเห็นได้ที่การ์ดป้องกันขอบประตูหน้าและหลัง ที่โปรเจ็กเตอร์ประตู และที่หมอนรองศีรษะทั้งหมด
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับสี Chromaflair คือส่วนประกอบที่ตกแต่งด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนทอแบบเคลือบเงา แทนที่แผ่นตกแต่งสี Turbonite แบบมาตรฐานที่กันชนหน้า สเกิร์ตข้าง และดิฟฟิวเซอร์หลัง แผ่นดันอากาศบนล้อก็ทำจากวัสดุพิเศษที่ทำด้วยมือ การเคลือบเงาช่วยให้สารประกอบคาร์บอนไฟเบอร์เปล่งประกายออกมาเป็นสีต่างๆ อย่างสวยงาม
ในประเทศไทย ราคาไทคานน์ รุ่นใหม่ เริ่มต้นที่ 6,690,000 บาท ส่งมอบปลายปี 2024
เป็นการขยับอีกก้าวของค่ายปอร์เช่ เพื่อรองรับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้ากำลังคึกคักในขณะนี้ แต่จะยืนซดแลกหมัดกับอีวีจากจีนแค่ไหน เดี๋ยวก็รู้