โบรกเชื่อ ‘กองทุนวายุภักษ์1’ รายย่อยแห่ซื้อ ผลตอบแทนจูงใจ แม้ฟันธงเงินต้นไม่ครบ
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลัง มีนโยบายเปิดขายหน่วยลงทุนของ กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 โดยเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่ผู้ลงทุนทั่วไปมูลค่า 100,000 – 150,000 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทย เตรียมเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนที่เสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผ่าน Krungthai NEXT และสาขาทั่วประเทศ ภายใต้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ โดยมีกลไกในการคุ้มครองเงินลงทุนและผลตอบแทน
ระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2567 เบื้องต้นประเมินว่าสามารถดึงดูดความน่าสนใจของนักลงทุนและประชาชนได้สูงมากอย่างแน่นอน เพราะมีการการันตีผลตอบแทนต่อปี มีกลไกป้องกันการขาดทุนถือว่าดี เพราะมีการนำสินทรัพย์ของกอง ข. ที่ถือโดยกระทรวงการคลังและนักลงทุนภาครัฐ นำมาชดเชยกอง ก. หากกองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม (เอ็นเอวี) ลดลง
นายประกิต กล่าวว่า หากประเมินในขณะนี้ ยังไม่มีความมั่นใจมากนัก ว่ากองทุนวายุภักษ์ 1 จะไปรอดภายใต้เงื่อนไขเดิมในตอนนี้หรือไม่ เพราะหากพิจารณาจดหมายของนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดผนึกถึงรัฐมนตรีคลัง ใจความหลักคือ การนำเงินจากกอง ข. มาใช้ชดเชยกอง ก. หากเอ็นเอวีลดลง เนื่องจากเม็ดเงินของกอง ข. เป็นเงินจากกระทรวงการคลัง ที่เป็นเงินงบประมาณของแผ่นดิน จึงไม่ถูกต้องที่จะนำเงินทุนส่วนนี้ไปชดเชยให้กับนักลงทุน
ในกรณีที่เอ็นเอวีลดลง จึงดูไม่สมเหตุสมผลมากนัก จึงไม่แน่ใจว่าจะมีการปรับเงื่อนไขของกองทุนออกมาหรือไม่ หากปรับจริง ความน่าสนใจของกองทุนอาจลดลง อาทิ หากปรับเงื่อนไขแล้วความเสี่ยงจากผลตอบแทนที่มี นักลงทุนต้องรับทั้งหมดเอง หากมีการขาดทุนเกิดขึ้น แบบนี้คงไม่มีใครสนใจเพราะก็ไม่ได้แตกต่างจากสินทรัพย์การลงทุนที่มี
“หากเบื้องต้นสามารถใช้เงื่อนไขนี้แบบไม่มีการปรับเปลี่ยนแล้ว มองว่ากองทุนวายุภักษ์ 1 มีความน่าสนใจสูง และขายหมดครบวงเงิน 1.5 แสนล้านบาทแน่นอน เพราะมีการขายให้สถาบันการเงินร่วมด้วย และนักลงทุนรายย่อยก็คงแห่ซื้อไม่ต่างกัน ส่วนความเชื่อมั่นที่หายไปเพราะตลาดหุ้นไทยปรับลดลง รวมถึงหุ้นรายตัวที่ลดลงด้วย อันนี้ไม่เหมือนกัน เพราะเป็นกองการันตีผลตอบแทน
แม้ยืนยันไม่ได้ว่าเงินต้นจะไม่หายแน่นอน เพราะหากเกิดเหตุการณ์วินาศสันตะโรทำให้เอ็นเอวีหายวูบไปต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาท และปิดกองไม่ทันจริงๆ ลักษณะนี้อาจเจอผลขาดทุนได้ แต่โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นยากมาก จึงบอกไม่ได้ว่าจะไม่เกิดเลยไม่ได้ เพียงแต่มีโอกาสน้อย” นายประกิต กล่าว