สมาคมนักวิเคราะห์เปิดรายชื่อหุ้นเด่น พร้อมกลยุทธ์จัดน้ำหนักพอร์ตลงทุน คาดดัชนีหุ้นไทยปิดปีที่ 1,618 จุด

นางภรณี ทองเย็น อุปนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลสำรวจความเห็นจากนักวิเคราะห์ และผู้จัดการกองทุนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางการลงทุนปี 2560 ว่า นักวิเคราะห์ให้สัดส่วนการลงทุนในเดือนกุมภาพันธ์ต่างจากเดือนมกราคม นักวิเคราะห์มองว่าควรลดสัดส่วนการถือครองตราสารหนี้มาถือครองหุ้นไทยแทน มีสัดส่วนการลงทุนดังนี้ หุ้นในประเทศหรือกองทุนหุ้นในประเทศ 42% หุ้นต่างประเทศ 21% ทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ 8% ตราสารหนี้และกองทุนตราสารหนี้ 14% เงินสด 11% และอื่นๆ เช่น กองทุนน้ำมัน รีท 4%

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าหุ้นไทยจะแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป จากการรวบรวมพบว่าดัชนีปลายปีจะอยู่ที่ 1,618 จุด มีจุดสุงสุดของดัชนีเฉลี่ยที่ระดับ 1,669 จุดและต่ำสุดที่ 1,453 จุด มีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจในประเทศ การลงทุนภาครัฐ การเมืองในประเทศที่จะมีการเลือกตั้งและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยในไตรมาสที่ 1/2560 ควรเน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนภาครัฐ ธนาคาร และหุ้นปันผล

สำหรับกระแสเงินทุนจากต่างประเทศนั้น คาดว่าจะมีแนวโน้มไหลออกไปประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์มีนโยบายลดภาษีนิติบุคคลหนุนกำไรบริษัทจดทะเบียน ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนไทยที่คาดว่าจะโตเพียง 8-9% เมื่อเทียบกับปีก่อน และจีดีพีไทยที่คาดว่าจะโตเพียง 3.39% น้อยกว่าการเติบโตของประเทศในภูมิภาคจึงไม่จูงใจให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุน ซึ่งที่ผ่านมาเริ่มเห็นแรงเทขายหุ้นไทยออกไปถือตราสารหนี้แทนแล้ว ทั้งนี้ กระแสเงินทุนจะไหลกลับอีกครั้งหากตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้นไปสูงมากจนทำให้ราคาแพงเกินไป

นางภรณีกล่าวอีกว่า ในมุมมองเรื่องตลาดตราสารหนี้นั้น นักวิเคราะห์มองว่าอัตราผลตอบแทนมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน คาดว่าอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ 1 ปีจะอยู่ที่ 1.572% อัตราผลตอบแทน 5 ปีอยู่ที่ 2.334% อัตราผลตอบแทน 10 ปีอยู่ที่ 3.1% และ 30 ปีอยู่ที่ 3.7% ส่วนทองคำนักวิเคราะห์มองไปในทิศทางเดียวกันว่าจะปรับขึ้นแบบทยอยปรับขึ้นโดยคาดว่าราคาเป้าหมายเฉลี่ยสิ้นปีจะอยู่ที่บาทละ 21,106 บาท มีปัจจัยบวกจากปัญหาในยุโรป เช่นเบร็กซิท นโยบายของนายทรัมป์ และปัญหาด้านการเมืองโลก ส่วนราคาน้ำมันคาดว่าเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 55.42 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าโดยจะอยู่ที่ 36.12 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หุ้นเด่นที่นักวิเคราะห์ให้ตรงกันคือ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)ให้ราคาเป้าหมาย ( Target price) ที่ 23.275 บาท บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) ให้ราคาเป้าหมายที่ 32.36 บาท บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)ให้ราคาเป้าหมาย 75 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ให้ราคาเป้าหมายที่ 174.25 บาท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image