ตลาดรับสร้างบ้านหรู ‘ภูธร’ โตสวนเศรษฐกิจ ‘เศรษฐีใหม่’ ทุ่มสร้างหลังละ 40-200 ล้าน

ตลาดรับสร้างบ้านหรู ‘ภูธร’ โตสวนเศรษฐกิจ ‘เศรษฐีใหม่’ ทุ่มสร้างหลังละ 40-200 ล้าน

วันที่ 18 กันยายน นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อในไตรมาส4 ปี 2567 ในระหว่างวันที่ 18-22 กันยายนนี้สมาคมจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2024 ภายใต้แนวคิด”อยากสร้างบ้าน ต้องมางานนี้”ที่เมืองทองธานี ภายในงานมีแบบบ้านกว่า 1,000 แบบ ราคาตั้งแต่ 1-100 ล้านบาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าจองปลูกสร้างบ้านในงาน เช่น ลุ้นรับทองคำแท่ง รวม 20 รางวัล มูลค่ากว่า 530,000 บาท รับส่วนลดดอกเบี้ยเพิ่ม 20 สตางค์จากอัตราสินเชื่อปกติ และสินเชื่อกู้สร้างบ้านได้ 100% ของราคาบ้านจาก 6 ธนาคาร รวมทั้งมาตรการสร้างบ้านลดหย่อนภาษี“ล้านละหมื่น”ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน 1 ล้าน หักลดหย่อน 10,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท สามารถก่อสร้างได้ถึง 31 ธันวาคม 2568 คาดช่วยลูกค้าตัดสินใจสร้างบ้านเร็วขึ้น โดยสมาคมตั้งเป้ายอดเซ็นสัญญาจองสร้างบ้านตลอด 5 วันที่ 4,500 ล้านบาท ผู้เข้าชมงาน 15,000 คน และส่งผลให้มูลค่ารวมยอดเซ็นสัญญาถึงสิ้นปี 2567 อยู่ที่ 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดกรุงเทพและปริมณฑล 65% และ ต่างจังหวัด 35%

“คาดหวังกับงานครั้งนี้ เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีและดอกเบี้ยยังสูง ต้องกระตุ้นให้คนออกมาเดินในงาน ดึงกลุ่มแรกที่ต้องการหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจสร้างบ้านหลังแรกบนที่ดินของตัวเอง กลุ่มคนที่มีแผนสร้างบ้านอยู่แล้วแต่ชะลอตัดสินใจและกลุ่มสุดท้ายที่ต้องการชมนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างใหม่ๆ ปรึกษาเรื่องสินเชื่อกับแบงก์ ทั้งนี้จากการสำรวจพฤติกรรมและกลุ่มที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน พบคนกรุงเทพฯ นิยมสร้างบ้านหลังใหญ่ 10-20 ล้านบาทหรือขนาด 400 ตร.ม.มากขึ้น เปลี่ยนไปตามโครงสร้างประชากร เช่น สังคมผู้สูงอายุ ส่วนคนต่างจังหวัด นิยมบ้านสไตล์โมเดิร์นไม่เกิน 5 ล้านบาท”นายโอฬารกล่าว

Advertisement

นายอนันต์กร อมรวาที กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์ แปลน 101 จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านหรูในปัจจุบันยังทรงตัว มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 5% เนื่องจากลูกค้ากังวลภาวะเศรษฐกิจจะใช้เวลาตัดสินใจนานขึ้นเป็น 6-8 เดือน แต่ของบริษัทยังโตต่อเนื่อง โดยปี 2567 ตั้งเป้าโต 20% จากปีก่อนหน้า 1,000 ล้านบาท อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท ลูกค้าที่สั่งสร้างเป็นระดับราคา 40-200 ล้านบาทและอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ซึ่งลูกค้ามีหลากหลาย อาทิ นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ทำธุรกิจโตเร็ว จะนิยมแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น ราคา 30-50 ล้านบาทและกลุ่มเบบี้บูมเมอร์นิยมสไตล์คอนเทมโพลาลีและนีโอคลาสสิค ราคา 50 ล้านบาทขึ้นไป นอกจากนี้บริษัทจะทำแบบบ้านพร้อมอยู่ โดยทำเป็นแพ็กเกจตั้งแต่ออกแบบ ก่อสร้างและตกแต่งพร้อมอยู่ ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาทขึ้นไป รองรับลูกค้าที่ต้องการความสะดวก คาดว่าจะทำตลาดตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้

“ในงานรับสร้างบ้านปีนี้ เราตั้งเป้าจะมียอดจองภายในงานจำนวน 4 หลัง มูลค่า 200 ล้านบาท โดยปีนี้มีไฮไลต์แบบบ้าน 3 กลุ่มราคาที่นำร่วมออกบูธ ราคาเริ่มต้น 20 ล้านบาท 50 ล้านบาท และ100 ล้านบาท รวมถึงแบบบ้าน 1,500 ล้านบาทที่เราออกมาล่าสุดและแพงสุดในขณะนี้ด้วย ในงานมีจัดโปรพิเศษลดค่าตกแต่งภายใน เริ่มต้น 3% สูงสุด 3 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับราคาบ้าน”นายอนันต์กรกล่าว

Advertisement

นายอนันต์กรกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ต้นทุนก่อสร้างในขณะนี้มีวัสดุก่อสร้างบางตัวที่ปรับราคาขึ้น เช่น โครงหลังคา ปูน อิฐมวลเบา ส่วนเหล็กเริ่มลงและทรงตัว อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่มีแผนจะปรับค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น แต่หากปลายปีนี้มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวันทั่วประเทศ คงต้องมาประเมินผลกระทบอีกครั้ง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image