วีริศ ผู้ว่าการรถไฟฯ คนที่ 20 สานต่อนโยบายคมนาคม-ดูแลพนักงาน

วีริศ ผู้ว่าการรถไฟฯ คนที่ 20

ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีวาระเห็นชอบแต่งตั้ง นายวีริศ อัมระปาล ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

โดยนายวีริศเป็นอดีตผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่ดึงดูดการลงทุนไทย สามารถสร้างสถิติยอดขาย/เช่าที่ดินในอุตสาหกรรมสูงสุดติดต่อกัน 2 ปี (2566-67) ตลอดจนการริเริ่มนิคมอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์เทรนด์การลงทุนทั่วโลก อาทิ นิคมอุตสาหกรรมเซอร์คูลาร์ ตลอดจนสานต่อนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์ค และการก่อสร้างท่าเรือมาบตาพุดระยะ 3 หนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และผลงานอื่นๆ อีกมาก

ล่าสุด รฟท.ได้จัดพิธีลงนามสัญญาว่าจ้างนายวีริศ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย คนที่ 20 อย่างเป็นทางการตามมติ ครม. โดยมี นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานกรรมการ รฟท. เป็นประธานในพิธีดังกล่าว

นายวีริศระบุภายหลังจรดปากกาเซ็นสัญญา ว่า มีความพร้อมที่จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการการรถไฟฯทันที เนื่องจากตระหนักดีถึงความสำคัญของบทบาทและภารกิจของการรถไฟฯ ในฐานะองค์กรรัฐวิสาหกิจด้านการขนส่งที่ใหญ่สุดของประเทศ

ADVERTISMENT

ขณะนี้การรถไฟฯมีภารกิจที่ต้องเร่งดำเนินการในหลายด้าน และถือว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทาย ซึ่งตนจะทำงานอย่างเต็มความสามารถ และต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมจากทุกฝ่าย

ตั้งเป้าหมายพัฒนาโครงสร้างระบบรางของประเทศไทยให้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางหลักภายในประเทศ รวมทั้งอยากพัฒนาองค์กรการรถไฟฯให้มีการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ADVERTISMENT

“ในฐานะผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย คนที่ 20 ผมมีความพร้อมที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจรถไฟอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางของไทยให้แข่งขันกับนานาประเทศ รวมถึงเป็นฟันเฟืองหลักในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระดับบนและฐานราก ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตในการเดินทางขนส่งที่ดีต่อพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนต่อไป” นายวีริศระบุ

นายวีริศระบุด้วยว่า ขณะนี้มีความตั้งใจที่จะเร่งดำเนินการสานงานต่อตามนโยบายของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐบาล ในการขับเคลื่อนโครงการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานขนส่งรางให้สำเร็จตามแผน

อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 จำนวน 4 โครงการ และระยะที่ 2 อีก 6 เส้นทาง โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ โครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 1ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย

ตลอดจนการมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางของไทยให้เติบโตต่อเนื่อง พร้อมกับขยายขีดความสามารถการขนส่งทางรางให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางในภูมิภาคอาเซียนให้ได้โดยเร็ว ภายใต้กรอบทิศทางการดำเนินงานสู่วิสัยทัศน์ “เพิ่มโอกาส เพิ่มคุณค่า ลดภาระของรัฐ พัฒนาบุคลากร” จำนวน 6 ด้าน

ได้แก่ 1.ดำเนินกิจการเพื่อเพิ่มรายได้ 2.พัฒนาการให้บริการ 3.การลดรายจ่าย 4.บริหารจัดการด้านบุคลากร 5.สนับสนุนประสานงานติดตาม และเร่งรัดโครงการ โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญตามนโยบายรัฐบาล และ 6.ดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม

นอกจากนี้ นายวีริศยังระบุว่า จะให้ความสำคัญต่อการร่วมพบปะหารือกับพนักงานการรถไฟฯ และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมรับฟังความคิดเห็นและนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานร่วมกัน

ตลอดจนดูแลด้านสวัสดิการต่างๆ ให้พนักงานการรถไฟฯ สร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อนำข้อมูล ทุกความคิดเห็นจากคนรถไฟมาสานต่องานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

โดยใน 3 เดือนแรกตั้งใจจะมาดูระบบการทำงานของการรถไฟฯเบื้องต้น ซึ่งจะใช้เวลา 1 เดือนในการศึกษางานทั้งหมดอย่างละเอียดและจะมีการแบ่งงานในองค์กรให้ชัดเจน รวมถึงการเริ่มเข้ามาแก้ปัญหาที่สะสมค้างมานาน เช่น การแก้ปัญหาหนี้สิน

นายวีริศกล่าวย้ำว่า สำหรับกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการที่ตนนั้นได้เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟฯคนใหม่ เนื่องจากมีความสนิทสนมกับนายสุริยะนั้นขอชี้แจงว่า ตนเป็นคนที่ตั้งมั่นและมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติมาตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตการทำงาน อีกทั้งที่ผ่านมามีประสบการณ์ทำงานในองค์กรที่ก่อให้เกิดการพัฒนาประเทศมาหลายแห่ง

ดังนั้น ขอยืนยันว่าการเข้ามาสมัครผู้ว่าการในครั้งนี้เป็นจังหวะโอกาสหนึ่งที่ตนเห็นว่ามีศักยภาพพร้อมที่จะทำงานได้ จึงตัดสินใจเข้ามาสมัครตามกระบวนการอย่างถูกต้องและโปร่งใส

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image