ไทยธุรกิจท่องเที่ยว ชี้ยอดจองหยุดยาววันชาติจีนทรงตัว แม้กระตุ้นศก.ในจีนไม่รั้งเที่ยวไทย

ไทยธุรกิจท่องเที่ยว ชี้ยอดจองหยุดยาววันชาติจีนทรงตัว แม้กระตุ้นศก.ในจีนไม่รั้งเที่ยวไทย

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ตุลาคม เป็นวันชาติจีน ที่ถือเป็นวันหยุดยาว ซึ่งชาวจีนจะใช้เป็นช่วงหยุดยาวเพื่อออกเดินทางไปท่องเที่ยวต่างชาติประเทศ โดยในอดีตที่ผ่านมา ก่อนเกิดโควิด-19 เมื่อปี 2562 ประเทศไทยรองรับนักท่องเที่ยวจีนในช่วงวันหยุดยาวชาติจีนจำนวนมาก แต่ในขณะนี้เหลือเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์จะเข้าสู่ช่วงวันชาติจีนแล้ว ยังไม่เห็นยอดจองล่วงหน้าเข้ามามากเท่าที่ควร เห็นการจองโรงแรมที่พัก ค่อนข้างทรงตัว จึงประเมินว่าวันชาติจีน ปี 2567 นี้ แนวโน้มคงทรงตัวเมื่อเทียบปี 2566 ไม่ได้แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา

นายอดิษฐ์ กล่าวว่า ทิศทางตลาดจีนเที่ยวไทย มองว่ายังขยายตัวเป็นไปตามธรรมชาติ โดยหากประเมินตลาดต่างชาติเที่ยวไทยในภาพรวม ถือว่าทยอยฟื้นตัวได้ดี สะท้อนจากข้อมูลตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเที่ยวไทย สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 22 กันยายน 2567 ที่ผ่านมารวม 25,413,226 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,188,099 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 5,107,697 คน มาเลเซีย 3,643,753 คน อินเดีย 1,485,017 คน เกาหลีใต้ 1,347,069 คน และรัสเซีย 1,137,867 คน จะเห็นได้ว่าจีนเป็นตลาดต่างชาติอันดับแรกที่เข้ามาเที่ยวไทยสูงสุดแล้ว โดยทั้งปี 2567 นี้ แอตต้าคาดการณ์เป้าหมายอยู่ที่ 7.3 ล้านคน ส่วนเป้าหมายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ตั้งไว้ 8 ล้านคน เท่ากับอีก 3 เดือนสุดท้ายจะต้องทำให้ได้ที่ 1 ล้านคนต่อเดือน มองว่ายากและต้องทำอะไรอีกหลายอย่าง อาทิ เพิ่มเที่ยวบิน เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย

“การกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจีน ผ่านการที่รัฐบาลแจกเงินให้กับพลเมือง ผู้ที่ได้รับเงินเป็นกลุ่มเปราะบาง จำนวน 4 ล้านกว่าคน ส่วนนี้มองว่าไม่มีผลกระทบต่อกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวไทย เพราะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของนักเดินทาง แต่เป็นกลุ่มที่รัฐบาลจีนดูแลเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจครัวเรือนกลุ่มเปราะบางเท่านั้น โดยปัจจัยที่มีผลกระทบมองว่าเป็นเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมากกว่า เพราะมีผลต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวตรงๆ โดยเฉพาะตลาดที่มี ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ และค่าเงินอ่อนตัวอยู่แล้ว อาทิ ญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นตลาดฐานลูกค้าหลักของไทยด้วย” นายอดิษฐ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image